HoonSmart.com>> บล.บัวหลวง เผยหุ้นไทยเดือนส.ค.พุ่งขึ้นสูงสุดในภูมิภาค ทำนิวไฮรอบ 2 ปี ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก หนุนหุ้นใหญ่คึกคัก SET50 Index Futures เพิ่มขึ้น เสี่ยงเกิดแรงขายทำกำไร พบ 3 หุ้นบล็อกเทรดสูง “KBANK-ADVANC-SPCG”
บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง เปิดเผยว่า ภาพรวมในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางบวก เช่นเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยได้รับแรงหนุนจากภาพรวมของสถานการณ์ COVID-19 ภายในประเทศเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของ SET Index เกิดจากการซื้อหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 Index ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในเดือนส.ค.กลับมาสดใส แตกต่างกับภาพรวมในเดือนก.ค.อย่างสิ้นเชิง
ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,638.75 จุด ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปี ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ บวกกับภาพรวมของสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายของ SET50 Index Futures เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึง 33.50% โดยมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 4,507,947 สัญญา
นอกจากนี้ปริมาณการซื้อขายผ่านธุรกรรม Block Trade ฟื้นตัวเฉลี่ยต่อวันเทียบกับเดือนก่อนหน้าเป็น 3,370 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.18% โดยกลุ่ม ICT มูลค่าซื้อขายโดดเด่น นำขบวนมาโดยหุ้น ADVANC โดดเด่นสุดในกลุ่มทั้งปริมาณการซื้อขายติดอันดับ 2 ของ Block Trade และมูลค่าของสัญญาคงค้างที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 211 ล้านบาท หรือ +19.93%
สำหรับการเคลื่อนไหวของ SET50 Index ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา มีลักษณะเช่นเดียวกับ SET Index กล่าวคือ SET50 Index ค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้นเป็นลักษณะ U Shape เช่นกัน จากระดับ 910.61 จุด ณ วันที่ 30 ก.ค. 64 มาสู่ระดับ 992.13 จุด ณ วันที่ 31 ส.ค. 64 หรือเพิ่มขึ้น 8.95% ด้วยมูลค่า ซื้อขายหลักทรัพย์รวม 905,562.38 ล้านบาท เฉลี่ย 43,122.02 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้น 17.67% จากเดือนก่อนหน้า
ทั้งนี้จะเห็นว่า สัดส่วนการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index สูงกว่า SET Index ด้วยมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันที่คึกคักมากกว่า เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สะท้อนว่า การปรับตัวขึ้นของตลาดฯ ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่ในตลาดฯ
“SET50 Index Futures เคลื่อนไหวในทิศทางบวกเช่นกัน โดยการดีดตัวขึ้นในรอบนี้เกิดจากกระแสเงินของนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาซื้อ ทั้งในตลาดหุ้นไทยและใน SET50 Index Futures อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาซื้ออย่างหนักหน่วงในตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนส.ค. ที่ผ่านมา ว่าจะพลิกกลับมาขายสุทธิหรือไม่ จากแนวโน้มของค่าเงินบาทที่มีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยในระยะ 1 เดือนขึ้นไป มีโอกาสแตะแนวอ่อนค่าในช่วง 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ขณะเดียวกันการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นไทยในเดือนส.ค.ซึ่งขยับตัวขึ้นแรงที่สุดในภูมิภาคและ FTSE All World Index จะปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยราว 40-50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะมีผลวันที่ 17 ก.ย. 2564 อาจสุ่มเสี่ยงที่เดือนก.ย.จะเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้น โดยเฉพาะการที่ดัชนีพยายามเข้าใกล้ 1,670-1,685 จุด และ SET50 Index พยายามทดสอบ 1,015-1,025 จุด
ด้านมูลค่าสัญญาคงค้างเฉลี่ยต่อวันบนหุ้นอ้างอิง 5 อันดับสูงสุด ได้แก่ หุ้นอ้างอิง KTC ที่ครองแชมป์มูลค่าสูงสุดมา 10 เดือนติดต่อกัน ตามมาด้วย CBG, KBANK, RS และ SCC ตามลำดับ โดยกลุ่มที่นักลงทุนให้ความสนใจและเข้ามาซื้อขายในธุรกรรม Block Trade มากที่สุดในเดือนส.ค. คือ กลุ่มพลังงาน, ธนาคาร และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตามลำดับ
ส่วนปริมาณการซื้อขายผ่านธุรกรรม Block Trade ก็ฟื้นตัวเช่นกัน สอดคล้องกับจำนวนสัญญาคงค้างรวมของตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปี ซึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนสัญญาคงค้างของ Single Stock Futures โดยหุ้นอ้างอิงที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายผ่านธุรกรรม Block Trade สูงสุด 3 ตัวแรก ได้แก่ KBANK, ADVANC และ SPCG ซึ่งหุ้น ADVANC โดดเด่นสุดในกลุ่ม IT พร้อมกับมูลค่าสถานะคงค้างรวมที่เพิ่มขึ้นและมูลค่าการซื้อขาย ผ่านธุรกรรม Block Trade สูงติดอันดับ 2
ติดตามข่าว หุ้นเด่นระหว่างวัน ผ่านช่องทาง Line OpenChat : https://line.me/ti/g2/wEbsUcMaP2oP45XhK3vYhQ