บล.คิงส์ฟอร์ดวางแนวรับหุ้น 1,630 จุด แนะ BANPU-IP

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ดวางแนวรับหุ้น 1,630 จุด ยืนไม่อยู่ส่อลงแถว 1,610 – 1,620 จุด แนะรอซื้อช่วงดัชนีอ่อนตัว หุ้นแนะนำวันนี้ BANPU-IP

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินตลาดหุ้นวันนี้ วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,630 หากยืนไม่ได้ ดัชนีอาจปรับฐานลงไปที่ระดับ 1,610 – 1,620 แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวระยะสั้นเก็งกำไร SINGER(+ ร่วมกับ U ในการดำเนินธุรกิจบริการการเงิน ), MAKRO(+ ซื้อหุ้น Tesco), DTAC (+สัญญาณทางเทคนิค)

SET เทรดที่ Forward P/E 20.2 เท่า ค่อนข้างสูง และยังรอประเมิน ศบค.จะขยายล็อกดาวน์เพิ่มเติมใน ต.ค. หรือไม่ รวมถึงแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่จะลดลงต่อเนื่องหรือไม่

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA-0.14%, S&P500+0.03%, Nasdaq +0.33% ทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี FAANG ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำ ส่วนกลุ่มอสังหา +1.69% รับตัวเลขการใช้จ่ายด้านก่อสร้าง ก.ค. +9% MoM ขณะที่กลุ่มพลังงาน -1.15% หลังโอเปกมีมติเพิ่มกำลังการผลิต ส่วน ADP เผยการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ส.ค. เพิ่มขึ้น 374,000 ราย ต่ำกว่าคาด 613,000 ราย จากผลกระทบไวรัสระบาด

ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.48% ได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก , เดินทางและสันทนาการ, กลุ่มธนาคารได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการว่างงานกลุ่มยูโรโซน ก.ค. ลดลงอยู่ที่ 7.6% &มิ.ย. 7.8%

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ BANPU (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 11.10 บาท) ระยะสั้นมีปัจจัยหนุนจากราคาถ่านหินในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นล่าสุดอยู่ที่ US$174/ton และมีแนวโน้มทรงตัวสูง รวมถึงราคาก๊าซในสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่งจะช่วยหนุนกำไรใน 3Q64 สำหรับกลยุทธ์ในระยะยาว Greener & Smarter เพื่อลดความผันผวนจากธุรกิจเดิมที่อิงราคาถ่านหินและให้เป็นไปตามแนวโน้มการใช้พลังงานของโลก

ผู้บริหารตั้งเป้ามี EBITDA จาก Green Business ในสัดส่วนมากกว่า 50% ภายในปี 68 จากช่วง 1H64 ที่มีสัดส่วน 43% โดยเตรียมเงินลงทุน 4.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งแผนการลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาคาดว่าจะช่วยสร้างฐานกำไรและลดผลกระทบจาก Dilution Effect ในปี 64-66 ลงได้

หุ้น IP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 26.25 บาท) Covid-19 ส่งผลให้ ผู้บริโภคเกิด awareness ต่อ อาหารเสริม และ ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ ในส่วนของการดำเนินงานช่วง 1H64 บ.รายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 45.73 ลบ. (+37.15%YoY) ผลจากรายได้ที่สูงขึ้นในเกือบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์(ยกเว้นผลิตภัณฑ์ความงามที่ลดลง)

ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังยังจะมี่แรงหนุนเพิ่มเติมจากการเติบโตของธุรกิจยา ซึ่งได้เข้าไปซื้อโรงงานของเทวาฟาร์มาก่อนหน้านี้ คาดว่าจะสามารถผลิตยาให้แก่ทางเทวา อิสราเอล ได้จำนวน 24 SKU โดยเบื้องต้นประเมินว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้เลยที่ 100 ลบ. ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี64 และ ปี65 จะขยายต่อเนื่องจากปี 63 ที่ 0.26 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.46 บาท/หุ้น, และ 0.61 บาท/หุ้น ตามลำดับ