ttb analytics ลุ้นเศรษฐกิจพ้นจุดต่ำสุดในQ4 หนุนทั้งปีโต 0.3%

HoonSmart.com>>ttb analytics ลุ้นเศรษฐกิจพ้นจุดต่ำสุดในไตรมาส 4 หนุนฉีดวัคซีนพื้นที่แดงเข้ม 70% หนุนเศรษฐกิจไทยปี 64 ยังโตได้ 0.3% ระบุหากขยายล็อกดาวน์ไปถึงสิ้นไตรมาส 3 ส่งออกไปอาเซียนชะลอตัว ฉุดเศรษฐกิจถดถอยครั้งแรกหลังวิกฤตปี 40

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ระบุเงื่อนไขสำคัญที่นำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ได้แก่ สถานการณ์การระบาดอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ซึ่งสมมติฐานที่ใช้ คือยอดผู้ติดเชื้อรายวันจะเพิ่มขึ้นสูงสุดในระดับ 25,000-30,000 คน ภายในปลายเดือนสิงหาคมนี้ ควบคู่ไปการกระจายวัคซีนสอดคล้องกับยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่ ซึ่งใช้ตัวบ่งชี้เป็น 70% ของประชากรกรุงเทพฯและปริมณฑลที่ได้รับวัคซีนเข็มแรก

โดยหากฉีดวัคซีนได้ 3 แสนโดสต่อวัน (เป็นค่าเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังจนถึงขณะนี้) จะครอบคลุมประชากรในกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ 70% ในต้นเดือนกันยายน (จากขณะนี้มีผู้ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสอยู่ 8 ล้านคน คิดเป็น 54%ของประชากรในกรุงเทพฯ และปริมณฑล) ภายใต้การบริหารจัดการวัคซีนที่เป็นไปตามแผนทำให้มีปริมาณวัคซีนรองรับเพียงพอและยอดผู้ติดเชื้อปรับลดลงต่อเนื่อง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมาฟื้นได้ในเดือนตุลาคม 2564 ทั้งนี้ หากรักษาอัตราการฉีดวัคซีนได้ในระดับนี้ต่อเนื่อง จะสามารถครอบคลุมประชากรในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลได้ 70% หรืออีกนัยคือประเทศเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ใด้ภายในเดือนธันวาคม 2564

สำหรับการปรับตัวของแต่ละองค์ประกอบ พบว่าการบริโภคภาคเอกชน จะเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น แต่ยังเปราะบางอยู่มากเมื่อมีการปลด ล็อกมาตรการปิดกิจการในพื้นที่ควบคุมสีแดง การปิดแคมป์ก่อสร้าง การปิดคลัสเตอร์โรงงาน และเมื่อรวมกับเม็ดเงินจากมาตรการเยียวยาที่คาดว่าจะมีต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือลูกจ้าง แรงงานในกิจการและอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์

รวมทั้งเดินหน้าโครงการในแผนงานกระตุ้นเศรษฐกิจของ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่ชะลอไปในช่วงสถานการณ์โควิดโดยมีการเบิกจ่ายเพียง 28% คาดว่าจะช่วยประคองการบริโภคไม่ให้ทรุดหนัก โดยมีแนวโน้มที่จะทรงตัวจากปีก่อนหน้า ส่วนการลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดแคมป์ก่อสร้าง ที่ทำให้เกิดปัญหาการโยกย้ายแรงงานจากพื้นที่ก่อสร้าง และการชะลอโครงการของภาครัฐบางส่วนโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้การลงทุนภาคเอกชนในปีนี้ฟื้นตัวช้า

ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวนำร่องด้วยภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นจุดเริ่มต้นการสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวให้เริ่มกลับมา แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีจำนวนไม่มากนัก โดยปรับลดประมาณการนักท่องเที่ยวทั้งปี 2564 อยู่ที่ 1 แสนคน

ทั้งนี้ จากปัจจัยเศรษฐกิจในแทบทุกด้านโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่ยังไม่สามารถกลับสู่ระดับปกติ โดยเป็นเพียงการเริ่มฟื้นตัวจากฐานต่ำในปีก่อนหน้า มีเพียงภาคการส่งออกที่เติบโตได้ โดยคาดว่าทั้งปี 2564 จะโตได้ 9.4% และมาตรการภาครัฐที่เป็นแรงพยุงเศรษฐกิจ แต่โดยรวมก็ไม่สามารถชดเชยกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่ลดลงมากได้ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดโมเมนตัมเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ปี 2564 นี้ จะยังหดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และจะกลับมาเป็นบวกได้เล็กน้อยในไตรมาส 4 หลังประเมินการแพร่ระบาดจะสามารถกลับเข้าสู่ระดับควบคุมได้อีกครั้ง ซึ่งนำไปสู่การคลายล็อกดาวน์ในช่วงต้นกันยายน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2564 ขยายตัว 0.3% ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 0.9%

ทั้งนี้ หากแผนการฉีดวัคซีนคืบหน้าได้ดีต่อเนื่อง และไม่เกิดการระบาดรุนแรงระลอกใหม่ คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะกลับมาขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3.2 ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากฐานต่ำ อย่างไรดี หากยอดผู้ติดเชื้อยังคงสูงต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน ทำให้ต้องขยายการล็อกดาวน์ไปจนถึงสิ้นไตรมาส 3 ปี 2564 นี้ และเงื่อนไขการกระจายวัคซีน ที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ 70% ยืดออกไปเป็นไตรมาส 1 ของปี 2565

กอปรกับการส่งออกของไทยอาจได้รับผลกระทบจากความต้องการในตลาดอาเซียนชะลอลง โดยเฉพาะอินโดนีเซีย มาเลเซีย จากการใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งเป็นผลจากเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยอาจทำให้การส่งออกของไทยเติบโตลดลงไปที่ 6.6% ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จะฉุดให้เศรษฐกิจทั้งปี 2564 หดตัว หรือกล่าวได้ว่าวิกฤตโควิดทำให้เราอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกหลังวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ที่ผ่านมา