ASW แย้มมีโอกาสวิ่งเข้าชน มั่นใจรายได้ปีนี้เกิน 5 พันลบ.

HoonSmart.com>> ” แอสเซทไวส์” มั่นใจรายได้ปี 2564 ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท หรือโตไม่ต่ำกว่า 20%  รับรู้ Backlog เพิ่ม อีก 4.7 พันล้านบาท มีโครงการพร้อมอยู่อีก 18 โครงการ ครึ่งปีหลังเปิดใหม่อีก 4 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายแตะ 7 พันล้านบาท ส่วนผลงาน 6 เดือนแรก หรู กำไรโต 161.7% บอร์ดไฟเขียวแจกปันผลทั้งหุ้น-เงินสด ขึ้ัน XD 25 ส.ค.นี้  

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีทั้งวิกฤตและโอกาส การปิดแคมป์คนงานก็มีกระทบบ้าง แต่ไม่มาก ซึ่งบริษัทจะพยายามควบคุมและดูแลในทุกๆฝ่ายอย่างดี สะท้อนจากผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกที่เติบโต โดยประเมินว่าโควิด-19 จะเบาลงในช่วงปลายปี 2564 ตามการคาดการณ์ว่าจะมีการกระจายวัคซีนที่ครอบคลุมประชากรมากขึ้นแล้ว ปัจจุบันมีโอกาสเข้ามาหาบริษัทเยอะมาก ซึ่งก็ระมัดระวังการลงทุนเป็นอย่างดี ยังมุ่งมั่นทำสิ่งที่ถนัดต่อเนื่อง มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจและการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ล่าสุดบริษัทฯ ได้มีการร่วมมือกับบริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาและลงทุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาต่อยอดธุรกิจและสามารถปรับตัวสู่นวัตกรรมสมัยใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ผลักดันการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯคาดว่ายังคงรักษาการเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ทั้งปี 2564 ทำได้ตามเป้าหมายที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,228.79 ล้านบาท โดยการเติบโตมาจากการรับรู้ยอดขายรอโอน (Backlog) ที่คาดว่าจะรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้อีกประมาณ 4,700 ล้านบาท และจากยอดขายกับยอดโอนของโครงการพร้อมอยู่ (Ready-to-Move) อีก 18 โครงการ

ด้านเป้าหมายยอดขายในปี 2564 ไว้ที่ 7,000 ล้านบาทจะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของยอดขายรอโอน (Backlog) ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต จากปัจจุบันอยู่ที่ 7,707.9 ล้านบาท แผนในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเปิดโครงการใหม่อีก 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,381 ล้านบาท ที่ผ่านมาเปิดไปแล้ว 2 โครการ มูลค่าโครงการรวม 3,395 ล้านบาท

อีกทั้งจะมี 2 โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ ในไตรมาส 3 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ “เคฟ ทียู” (Kave TU) มูลค่าโครงการ 1,807 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายกว่า 90% และ “โมดิซ สุขุมวิท 50” (Modiz Sukhumvit 50) มูลค่าโครงการ 2,167 ล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนผลงานในปี 2564 สามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,107.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 47.1 % และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 23.2 % ทำให้มีกำไรสุทธิ 258.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 47% และ 23% ตามลำดับ หรือใกล้เคียงกับปัจจุบัน

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 578.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.7%  ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 2,281.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.8% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากลูกค้ามั่นใจในโครงการของบริษัทฯ และโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ ออกโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์หลากหลายเพื่อกระตุ้นการโอนกรรมสิทธิ์ โดยรับรู้ยอดโอนกรรมสิทธิ์จากแบรนด์ Kave เป็น

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นหุ้นและเงินสด โดยจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และการจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.02206 บาท เป็นเงิน 16,787,660 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 25 ส.ค.นี้ โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 26 ส.ค. และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 4 ต.ค. 2564