HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ดวางแนวรับดัชนี 1,530 จุด จับตาศบค.พิจารณาขยายเวลาล็อกดาวน์หรือไม่ ด้านผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศยังสูง 17,345 ราย ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก แม้ GDP ไตรมาส 2/64 ต่ำกว่าคาด แนะซื้อเก็งกำไร LANNA- CHG
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ วาง Filter แนวรับดัชนีที่ 1,530 จุด กรณียืนไม่ได้ดัชนีมีโอกาสปรับลดลงสู่ระดับ 1,500 – 1,520 จุด ณ ระดับดังกล่าวแนะนำทยอยซื้อหุ้นกลุ่มหลัก ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรรายตัว เช่น CHG, VIBHA, WINMED/ PSL, TTA, JWD
วานนี้หุ้น DATC +11.72% จากกระแสข่าว Telenor อาจพิจารณาลดสัดส่วนการลงทุนใน DTAC ซึ่งทางบริษัทได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้ว ส่วนรายงานกำไร Q2/64 ของ SCC อยู่ที่ 1.71 หมื่น ล้านบาท +82.6% YoY, +14.9% QoQดีกว่า Consensus คาดที่ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากราคาขายผลิตภัณฑ์เคมีปรับขึ้นและกำไรจากบริษัทร่วม ภาพรวมดัชนี SET ได้แรงหนุนจากรายงานกำไร บจ.
วันนี้ติดตามการประชุม ศบค.จะพิจารณาขยายเวลาล็อกดาวน์หรือไม่ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วานนี้เพิ่มขึ้น 17,345 ราย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.44%, S&P500+0.42%, Nasdaq +0.11 ได้แรงหนุนจากกลุ่มวัสดุ, ธนาคาร, พลังงาน รวมถึงรายงานกำไร Q2/64 ของฟอร์ด มอเตอร์ และยัม แบรนด์ดีกว่าคาดการณ์ ส่วนรายงาน GDP สหรัฐ Q2/64 +6.5% & Q1/64 +6.4% QoQต่ำกว่าคาดที่ +8.5% ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงอยู่ที่ 4 แสนราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่ 4.2 แสนราย
ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.46% หลัง EC เผยความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจยูโรโซน ก.ค. เพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ที่ระดับ 119.0 หุ้นเชลล์ , โททาลปรับขึ้นรับข่าวซื้อหุ้นคืน , กลุ่มเหมืองแร่ +2.4%
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ LANNA (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 24.50 บาท) เป็นผู้ที่มีแหล่งผลิตถ่านหินในอินโดนีเซียได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินในตลาด Seaborne ที่ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลความต้องการใช้ที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสถานการณ์ COVID-19 ในหลายประเทศเริ่มคลี่คลาย ทำให้มีความต้องการนำเข้าจากทั้งจีน อินเดีย เวียดนาม ไต้หวัน เกาหลี โดยเฉพาะประเทศจีนที่อุปทานภายในประเทศตึงตัวจากมาตรการด้านความปลอดภัย น้ำท่วมทางตอนกลาง และการห้ามนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลีย ส่งผลให้ประเทศจีนต้องหันไปนำเข้าจากแหล่งอื่น ส่งผลให้ราคาถ่านหินยังสามารถยืนในระดับสูงได้
หุ้น CHG (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 4.48 บาท) ประเมินกำไรสุทธิงวด 2Q64 ที่ 370 ลบ. (+138.76% YoY, +46.82% QoQ) ยังคงโดดเด่นรับแรงหนุนการตรวจเชื้อ Covid-19 และรายได้จากการรักษาผู้ป่วยโควิด Covid-19 (ร.พ./ASQ/Hospitel) นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการรับจ้างบริหารโรงพยาบาล(อื่นที่เกาะล้าน และพัทยา ที่ละ 1ร.พ. เริ่ม1Q64) และการเริ่มรับรู้รายได้จากการรับให้บริการผู้ป่วยศูนย์หัวใจสิรินธร(เริ่ม 2Q64 ; คาดรายได้ราว 150 ลบ./ปี) ขณะที่แนวโน้ม 3Q64 ยังคงเป็นบวกต่อเนืองจาก ปัจจัยหนุนตามฤดูกาล และจำนวนผู้ที่ติดเชื้อ Covid-19 สะสมที่อยู่ในระดับสูง จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันขึ้นไปแตะระดับ 1.7 หมื่นคน/วัน และอาจะขึ้นไป peak ที่ระดับ 3 หมื่นคน/วัน เบื้องต้น เราคาดกำไรสุทธิ ปี64 อยู่ที่ 1,272 ลบ. ( +45.11%YoY)
อ่านข่าว