โดย…..น.พ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ
หลังจากบิทคอยน์ลงไปทดสอบ $6,030 ช่วงสั้น ๆ ก็ดีดกลับมาแถว ๆ $6,500 ได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน คือเมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา ราคาบิทคอย์ ก็ร่วงลงอย่างรุนแรงอีกครั้งถึงระดับ $5,880 ซึ่งเกือบถึงจุดต่ำสุดของปีนี้ทีเดียว แถมยังพาให้ Altcoin ร่วงตามอย่างหนักหน่วง
โดยเฉพาะ Ethereum (ETH) ซึ่งร่วงลงไปกว่า 20% ภายในวันเดียว หรือประมาณ $252.50 โดยมีประเด็นว่ามีการขาย ETH ออกจากบริษัทที่ทำ ICO ทั้งหลาย เพื่อถือเป็นเงินสดแทน เพราะ ICO ส่วนใหญ่อยู่บน platform ของ ETH นั่นเอง
ทั้งนี้ เนื่องจากราคา ETH ตกลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เหมือน Altcoin ตัวอื่น ๆ ซึ่งติดลบมากกว่า 30% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่บิทคอยน์ติดลบไปเพียง 10% เท่านั้น และเด้งกลับอย่างรวดเร็ว ซึ่งการดีดกลับของราคาบิทคอยน์อย่างรวดเร็วนั้น เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการที่ Tether(USDT) ได้อัดฉีดเงินเข้าเวปเทรด Bittrex อีกกว่า 90 ล้านเหรียญ (USDT) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งไม่ใช่เงินพิมพ์ใหม่ แต่เป็นเงินคงคลังของบริษัทเอง
ล่าสุดราคาบิทคอยน์ (ณ.เวลาที่เขียนบทความ) ฟื้นตัวกลับมายืนที่ระดับ $6,550 ชดเชยที่ติดลบไปทั้งหมดและยังบวกกว่า 2.4% อีกด้วย ในรอบ 7 วัน
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับแนวรับ $5,800-$6,000 มาก เพราะหากหลุดแนวนี้จะเกิดการขายแบบ Panic ออกมา และอาจทำให้เกิดการล่มสลายของราคาบิทคอยน์ได้ ทั้งนี้ แนวรับที่ประมาณ $6,000 ถือเป็นแนวที่แข็งแรงมาก เพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ในรอบปีนี้แล้ว ที่แนวรับ $6,000 ช่วยพยุงราคาบิทคอยน์ไว้ (ดูกราฟด้านล่าง)
สำหรับราคาบิทคอยน์ในตลาดเมืองไทยอยู่ที่ประมาณ 218,500 บาท และ Ethereum ราคา 10,200 บาท ($301) ผมว่าBTC ถือไว้ก่อนได้ แต่ ETH ควรตั้งรอขายทำกำไรที่ราคาประมาณ 11,000-11,500 บาท ครับ
Disclaimer: เนื้อหาในบทความนี้เขียนจากความรู้และประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน และผู้เขียนก็มิได้เป็นผู้แนะนำด้านการเงินการลงทุน ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจลงทุน