TSTH โชว์กำไร 847 ลบ. ทะยาน 1,455% ยอดขายโต ราคาเหล็กสูงขึ้น

HoonSmart.com>> “ทาทา สตีล” กำไรสุทธิไตรมาส 1 โตแรงแตะ 847 ล้านบาท ทะยานกว่า 1,455% จากงวดปีก่อน กวาดยอดขาย 346,000 ตัน เพิ่มขึ้น 16% รายได้จากการขายและบริการจำนวน 7,892 ล้านบาท โต 72% รับความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น หนุนราคาขายเหล็กปรับตัวสูงขึ้น ประเมินปิดแคมป์ก่อสร้างกระทบความต้องการใช้เหล็กก่อสร้าง 30-40% ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า

บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) หรือ TSTH เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปีงบการเงิน 2565 (เม.ย.-มิ.ย.2564) กำไรสุทธิ 847.15 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.10 บาท เติบโต 1,455% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 54.47 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.01 บาท

บริษัทฯ มีปริมาณการขายในไตรมาส 1 สิ้นสุด 30 มิ.ย.2564 จำนวน 346,000 ตัน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการขายที่เพิ่มขึ้นในเหล็กลวดชนิดพิเศษใประเทศและการส่งออก แต่ลดลง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีงบการเงิน 2564 สาเหตุหลักมาจากความพร้อมใช้งานของวัสดุที่ลดลงจากแผนหยุดซ่อมแซมโรงงานประจำปีและการปิดสถานที่ก่อสร้างตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย.

รายได้จากการขายและบริการที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ 7,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% และ 72% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายสินค้าปรับตัวดีขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องมาจากไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น

รายได้จากการขายของบริษัทสูงกว่าไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนโดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการของตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น สินค้าคงเหลือรวมเพิ่มสูงขึ้น 623 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนมี.ค. 2564 จากสินค้าสำเร็จรูปและเศษเหล็กจากผลกระทบของการรับการส่งมอบที่ลดลงอันเป็นผลมาจากการปิดสถานที่ก่อสร้างชั่วคราว จำนวนวันในการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือคือ 48 วัน ณ สิ้นเดือนมิ.ย.2564 เทียบกับ 43 วันเมื่อสิ้นเดือนมี.ค.2564

ภาพรวมศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 2564 หดตัว 2.6% ฟื้นตัวจากการลดลง 4.2% ในไตรมาสก่อนหน้า ภาคการผลิตและการก่อสร้างกลับมาขยายตัว อุปสงค์ในประเทศได้รับแรงหนุนหลักจากการใช้จ่ายของรัฐบาลในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และจากการขยายและยกระดับเครือข่ายถนนและรถไฟในประเทศ เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการระบาดใหญ่ที่ต่ำ ทำให้ราคาสินค้าโภค
ภัณฑ์โลกเพิ่มขึ่นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นแรงหนุนความเชื่อมั่นและราคาสินค้าสำเร็จรูปในประเทศในช่วงไตรมาส 1 ปี การเงิน 2565

อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยจำนวนผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มขึ้นรัฐบาลจึงได้ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ ว่าสถานที่ก่อสร้างในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงจะปิดทำการและแคมป์คนงานจะถูกปิดเป็นเวลา 30 วัน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงและความต้องการใช้เหล็กในภาคการก่อสร้าง คาดว่าจะได้รับผลกระทบในทางลบ 30-40% ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า