โดย …. สุนันท์ ศรีจันทรา
บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ออกมา ไม่ย่ำแย่จนเกินไป ทำให้ราคาหุ้น BEAUTY ดีดตัวขึ้นแรง สวนภาวะตลาดหุ้นโดยรวมที่ทรุดหนัก
หุ้น BEAUTY ปิดวันที่ 15 สิงหาคมที่ 8.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือเพิ่มขึ้น 12.08% ขณะที่ดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ลดลงถึง 19.02 จุด
ก่อนตลาดหุ้นเปิดการซื้อขายวันที่ 14 สิงหาคม BEAUTY ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 โดยมีกำไรสุทธิ 256.34 ล้านบาท ลดลง จากระยะเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 273.18ล้านบาท โดยแม้กำไรจะลดลง แต่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาล่วงหน้าแล้ว
เพราะนักลงทุนคาดว่า ผลกำไรไตรมาสที่ 2 จะชะลอตัวอย่างหนัก แต่กลับชะลอตัวเพียงเล็กน้อย จึงแห่กันกลับเข้ามาซื้อ ลักดันให้ราคาทะยานขึ้นทันที โดยเพียง 2 วันทำการ ขยับขึ้นมาแล้ว กว่า 20%
BEAUTY เคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดในรอบปีที่ 23.70 บาท เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา หลังจากถูกกระหน่ำขาย เพราะมีข่าวลือ เกี่ยวกับแนวโน้มผลดำเนินงานที่ชะลอตัวลง จนเกิดการปรับฐานใหญ่ ราคาทรุดลงต่อเนื่อง จากลงไปต่ำสุดที่ .454 บาท เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม
ช่วงเวลาประมาณ 2 เดือน ราคาหุ้น BEAUTY ทรุดลงกว่า 70% โดยนักลงทุนคาดหมาย ว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาเลวร้าย จนไม่กล้าผลีผลามช้อนซื้อหุ้น และเฝ้ารอคอยการแจ้งงบการเงิน เมื่อกำไรชะลอตัวเพียงเล็กน้อย จึงแห่เข้ามาลุยช้อนหุ้นเก็บกันฝุ่นตลบ
คณะกรรมการบริษัทฯประกาศว่า จะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ0.162บาท โดยจ่ายในวันที่ 7 กันยายนนี้ และถือเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น
ผลกำไรไตรมาสที่ 2 ที่ไม่ตกต่ำจนเกินไปนัก พร้อมกับการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ทำให้ปัจจัยพื้นฐานของ BEAUTY ยังแข็งแกร่ง โดยมีค่าพี/อี เรโชประมาณ 17 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทนขยับขึ้นไป 5.50% และถ้ายังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อไป โดยจ่ายในวันที่ 7 กันยายน
ราคาระดับ 8 บาทต้น ๆ มีความน่าสนใจที่จะถือเก็บไว้ และ BEAUTY ถือเป็นระดับขวัญใจมวลนักลงทุนเหมือนกัน เพราะมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนว 19,803 ราย ซึ่งกินไม่ได้นอนไม่หลับ ช่วงที่หุ้นเกิดการปรับฐานใหญ่ ราคาดิ่งลงเหวลึก แม้ปัจจุบันยังไม่ดีดกลับขึ้นไปในจุดเดิม แต่การฟื้นตัวแรง 2 วันติด ทำให้ผู้ถือหุ้นเริ่มความหวังที่จะถือต่อไป
มรสุมข่าวลือและข่าวร้าย ที่ถล่มใส่หุ้นตัวนี้ จางหายไปแล้ว แต่ราคาหุ้นคงไม่พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง โดยการดีดตัวแรง 2 วันติด เป็นการตอบรับข่า วผลประกอบการที่ไม่เลวร้าย อย่างที่มีการประเมินไว้ก่อนหน้า ซึ่งน่าจะซึมซับรับข่าวจนอิ่มตัวแล้ว
แนวโน้มหุ้น BEAUTY ในระยะสั้นคงลดความร้อนแรงลง โดยเคลื่อนไหวไปตามภาวะตลาดมากกว่า เว้นแต่จะมีประเด็นเรื่องความคาดหมายผลประกอบการเข้ามากระตุ้น
ฐานราคาหุ้น BEAUTY ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ หรือสมดุลกับปัจจัยพื้นฐานแล้ว ไล่ราคาขึ้นไปต่อ จะมีความเสี่ยง และนักเก็งกำไรระยะสั้น ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะอาจเสียจังหวะ เก็บหุ้นต้นทุนสูงติดมือได้
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการไตรมาส2ที่ออกมา ถือเป็นการปลดเปลื้องความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของผลกำไร และปิดฉากวิกฤตราคาหุ้นในรอบนี้
ส่วนแนวโน้มระยะยาว BEAUTY จะเป็นอย่างไร ต้องนับหนึ่งประเมินทิศทางกันใหม่