CGS มองกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,540-1,585 จุด ชอบ “BCH” เด่นกำไรดี

HoonSmart.com>> “บล.คันทรี่กรุ๊ป” มองดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ประคองตัวได้ กรอบเคลื่อนไหว 1,540-1,585 จุด ติดตามการรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้า และการรายงบกลุ่มแบงก์ ส่วนหุ้นเด่น ชอบ BCH ราคาเป้าหมาย 28 บาท คาดกำไรไตรมาส 2 โตที่ระดับ 740 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป (CGS) วิเคราะห์ว่า ในสัปดาห์นี้การประกาศยกระดับเข้มงวดการควบคุมผู้ติดเชื้อในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เชื่อว่าอยู่ในคาดการณ์ของตลาดบ้างแล้ว เนื่องจากในสัปดาห์ที่แล้วจำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันก็ทรงตัวระดับสูงราว 9,000 ราย +/- ขณะที่ในวันศุกร์มีข่าวออกมาในทำนองว่าจะมีการยกระดับมาตรการควบคุมแต่ถึงกระนั้น SET INDEX ในวันศุกร์ก็ปิดบวกราว 0.15% ประกอบกับมีความคืบหน้าของ Vaccine Pfizer ที่มีกำหนดเข้าไทย 40 ล้านโดสเริ่ม ก.. ราว 5 ล้านโดส จึงเชื่อว่าตลาดจะสามารถประครองตัวได้

ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้หลักๆให้น้ำหนักกับการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร (Bank) ที่เป็นกลุ่มมีมูลค่าตลาดต่อ SET INDEX อันดับ 3 Bloomberg Consensus ประเมินกลุ่ม Bank จะรายงานผลประกอบการทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ ส่วนสัปดาห์ก่อน อาทิ TISCO และ KTC ในเชิงกำไรสุทธิถือว่าใกล้เคียง Bloomberg ประเมินไว้แต่จุดน่าสนใจที่เรามองคือการตั้งสำรองแม้ในช่วงไตรมาส 2/2564 เกิดการระบาดโควิด-19 รอบสาม ซึ่งกระทบกับความเชื่อมั่นในการบริโภครวมถึงเศรษฐกิจและที่สำคัญมีความกังวลถึงการสำรองที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้นกดดันผลประกอบการ แต่จากการประกาศของ TISCO , KTC พบว่าทั้ง 2 บริษัทสำรองลดลง เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า บ่งชี้ถึง (1) มีการสำรองสูงแล้วก่อนหน้านี้ (2) การแพร่ระบาดอาจไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างที่มีความกังวลกัน ทั้งนี้คาดหวังว่ากลุ่มการเงินที่เหลือจะเป็นลักษณะใกล้เคียงกัน หากเป็นเช่นนั้นจะทำให้ความกังวลด้านผลประกอบการลดลงถือเป็นบวกต่อภาพรวม ส่วน SET INDEX สัปดาห์นี้กรอบ 1,540 – 1,585

ปัจจัยแนะติดตาม (1) การค้าระหว่างประเทศในเดือน มิ.. ในวันพุธ Bloomberg ประเมินมูลค่าส่งออกและนำเข้าที่ +38% และ 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ (2) การประกาศผลประกอบการกลุ่ม Bank (BBL, KBANK, KKP, TTB และSCB)  

กลยุทธ์การลงทุน ยังมองหุ้นอิงรายได้ต่างประเทศมีโอกาสเคลื่อนไหวดีกว่าหุ้นอิงในประเทศ อาทิ ส่งออก ASIAN, CBG, HANA, KCE, NER และTU รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากโควิด-19 อย่างกลุ่มโรงพยาบาล BCH และCHG และสุดท้ายหุ้นที่คาดว่ากำไรในไตรมาส 2/2564 จะเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า อาทิ BCPG BGRIM DOHOME EPG SAPPE

ทั้งนี้ แนะนำ “BCH” “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 28 บาท เน้นการเก็งกำไรระยะสั้นหนุนจากผลประกอบการแข็งแกร่ง คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 ที่ 740 ล้านบาท (+166%YoY +129%QoQ) พร้อมคาดผลประกอบการไตรมาส 3/2564 จะทำสถิติสูงสุดใหม่และเป็นจุดสูงสุดของปี โดยคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2564 จะเติบโตกว่าครึ่งแรก เนื่องจากรายได้จากการตรวจและรักษาโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้จากการให้บริการฉีดวัคซีนทางเลือก