HoonSmart.com>> “อินเทอร์เน็ตประเทศไทย” เผยแนวโน้มการใช้งานข้อมูลดิจิทัลโตขึ้นทุกปี เตรียมจัดตั้งกองทรัสต์ “INETREIT” ลงทุนโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 เข้าลงทุนครั้งแรกไม่เกิน 4.3 พันล้านบาท เสนอขายจำนวน 330 ล้านหน่วย 16 , 19-23 ก.ค.นี้ ชูผลประกอบเด่นเติบโตก้าวประโดดทุกปี มีรายได้ประจำ ปรับขึ้นค่าเช่าปีละ 2% คาดผู้ถือหน่วยรับผลตอบแทนปีแรก 8.96%
นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร โดยการเติบโตของดิจิทัลยังมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกๆปี จากอดีตใน 5 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตเฉลี่ยทั่วโลกประมาณ 20% ซึ่งของไทยเองก็ใกล้เคียงที่ประมาณ 19.4% และใน 3-5 ปีนี้ (2564 -2568) แนวโน้มยังเติบโตขึ้นอีกต่อเนื่อง
ด้านนายวัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ INET เปิดเผยว่า บริษัทฯ จัดตั้งทรัสต์ เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต (INETREIT) เพื่อเข้าลงทุนในโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีลูกค้าใช้บริการจากอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทั้งหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนที่มีชื่อเสียง เช่น กลุ่มธนาคาร, เทคโนโลยีไอที, ธุรกิจพาณิชย์ เป็นต้น เนื่องจากศักยภาพของโครงการที่มีมาตรฐานสูง อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดความเสียหายจากภัยพิบัติต่างๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร 24 ชั่วโมง สามารถเชื่อมต่อกับโครงการ INET-IDC 1 และ INET-IDC 2 อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อเป็นเส้นทางสำรองในการเข้าถึงข้อมูลและสามารถให้บริการอย่างต่อเนื่องแม้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
แนวโน้มธุรกิจยังมีการเติบโตอีกมากในอนาคต ตามการปรับเปลี่ยนการใช้เอกสาร เป็นเอกสารบนระบบคลาวด์มากขึ้น ซึ่งพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ทำให้ปริมาณการใช้งานบนระบบคลาวด์เพิ่มขึ้น สะท้อนจากผลการดำเนินงานปี 2561 – 2563 ของโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 นี้ เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปี 2561 มีรายได้รวม 462.12 ล้านบาท (เดือนละ 38.51 ล้านบาท) ปี 2562 มีรายได้รวม 865.44 ล้านบาท (เดือนละ 72.12 ล้านบาท) และ 1,123.20 ล้านบาท (เดือนละ 93.60 ล้านบาท) ตามลำดับ โดยคาดว่าในอนาคตก็จะเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่องไปอีก 3-4 ปีนี้ (2564-2567) ซึ่งลูกค้าภาครัฐ และภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าสัดส่วนจะอยู่ที่ประมาณ 10% และ 90% ตามลำดับ
ด้านน.ส.พรวิสาข์ มังกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเมนท์ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า INETREIT จะเข้าลงทุนครั้งแรกในอาคารและอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานของโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 และที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารควบคุมสถานีไฟฟ้าย่อย ประกอบด้วย การลงทุนในกรรมสิทธิ์อาคารศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Center) พื้นที่ประมาณ 1,900 ตารางเมตรและอาคารห้องเครื่องพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร อาคารรับรอง (Customer Center) พื้นที่ประมาณ 1,600 ตารางเมตร ทรัพย์สินส่วนกลางของโครงการ อาคารและส่วนควบของสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) ตู้ Rack อุปกรณ์การเชื่อมต่ออื่นๆ ที่ใช้ในโครงการรวมถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง (Core Network) จำนวน 492 Rack ตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 และลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารควบคุมสถานีไฟฟ้าย่อย ระยะเวลาการเช่าประมาณ 24 ปี 5 เดือน (สิ้นสุดปี 2588)
ทั้งนี้หลังจากกองทรัสต์เข้าลงทุนในโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จะปล่อยเช่าทรัพย์สินดังกล่าวแก่ INET เพียงรายเดียวตลอดระยะเวลาการเช่า โดยค่าเช่าเป็นค่าเช่าคงที่ และมีข้อตกลงปรับขึ้นค่าเช่าปีละ 1 ครั้ง ในอัตรา 2% ต่อปี ซึ่งจะทำให้กองทรัสต์มีรายได้มั่นคงและเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยค่าเช่าเริ่มต้นในปี 2564 อยู่ที่ 30.928 ล้านบาทต่อเดือน นอกจากนี้กองทรัสต์ได้รับสิทธิในการปฏิเสธก่อน (Right of First Refusal) ในโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 เฟส 3 และ เฟส 4 และศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลอื่นๆของ INET เพื่อรองรับแผนงานขยายการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต
ด้านน.ส.จิรยง อนุมานราชธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า กองทรัสต์จะเข้าลงทุนในทรัพย์สินครั้งแรกในราคาลงทุนไม่เกิน 4,300 ล้านบาท โดยมีมูลค่าใกล้เคียงกับราคาประเมินทรัพย์สินของผู้ประเมินทรัพย์สินอิสระที่ราคา 4,298-4,496 ล้านบาท ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินเห็นว่าราคาลงทุนดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสม ซึ่งคาดว่าผลตอบแทนผู้ถือหน่วยทรัสต์จะได้รับในปีแรกอยู่ที่ประมาณ 8.96%
ส่วน น.ส.พรวิภา ตั้งตรงจิตร ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนครั้งแรกของกองทรัสต์ INETREIT มีมูลค่ารวมไม่เกิน 4,300 ล้านบาท โดยมาจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์จำนวนไม่เกิน 330 ล้านหน่วย ที่ราคาเสนอขายหน่วยละ 10 บาท และเงินกู้ยืมระยะยาวไม่เกิน 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยจองซื้อในช่วงวันที่ 16 , 19-23 ก.ค.นี้ ผ่านทางธนาคารกสิกรไทย , บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) และ บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 9 ส.ค.2564
“จุดเด่นของ INETREIT เป็นกองทรัสต์กองแรกในไทยที่เข้าลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีในไทยเพื่อรองรับโลกอนาคต ซึ่งกองทรัสต์จะมีรายได้ค่าเช่าที่มั่นคงและสม่ำเสมอและจะได้รับประโยชน์จากนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) โดยมีฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย และบริหารจัดการโดยบริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ และตัวผู้เช่า INET เองก็มีความแข็งแกร่งจากการที่มีภาครัฐถือหุ้นอยู่ 49%” น.ส.พรวิภา กล่าว