HoonSmart.com>> “ไซแมท เทคโนโลยี” คาดรายได้โตตลอดปี 2564 ได้ลูกดี “ฮินซิซึ” พร้อมส่งเข้าตลาดหุ้นในปี 2565 ส่วนธุรกิจ IT เริ่มรับรู้งาน USO เฟส 2 จำนวน 271 ล้านบาท สัญญา 5 ปี กว่า 1,213 ล้านบาท เดินแผนลดต้นทุน เริ่มเห็นผลตั้งแต่ไตรมาส 3
นายบุญเลิศ เอี้ยวพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี (SIMAT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 2564 จะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน ที่มีรายได้ประมาณ 1,020 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากบริษัทย่อย ฮินซิซึ (ประเทศไทย) หรือ HST ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 70% มียอดขายที่เติบโตดีขึ้น แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลับส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้สำนักงาน และสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวสูงขึ้นมาก ทั้งฐานลูกค้าเก่าและฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์สัญชาติเกาหลี
นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นจากเดิมที่สั่งจากคู่แข่งในประเทศจีน และการที่ทำงานอยู่บ้าน เป็นปัจจัยหนุนให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามียอดขายที่ดีขึ้น รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกด้วย
HST มีแผนจะเติบโตมากในอนาคต ทั้งการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น โดยเบื้องต้นคาดว่าเริ่มเข้าสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ทำสติ๊กเกอร์ข้างผลิตภัณฑ์ของลูกค้า และการซื้อกิจการในต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มที่ประเทศเวียดนามก่อน เนื่องจากลูกค้าขยายฐานการผลิตไปเวียดนาม และบริษัทฯมีพันธมิตรที่สนใจอยากให้บริษัทฯเข้าร่วมลงทุน นอกจากนี้มีแผนจะก่อสร้างโรงงานผลิตใหม่ โดยรวมโรงงานเดิมที่เช่าอยู่ 2 แห่ง เข้าด้วยกัน เพื่อประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น คาดว่า HST จะมียอดขายเติบโตเฉลี่ยได้ปีละ 20%
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อนำ “ฮินซิซึ” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะสามารถเข้าระดมทุนได้ภายในปี 2565 โดยผู้ถือหุ้น SIMAT จะได้รับสิทธิจัดสรรหุ้นเพื่อรักษาสิทธิ (Pre-emptive offering) ตามสัดส่วนการถือหุ้น
ส่วนธุรกิจไอทีโซลูชั่น ปัจจุบันรอรับรู้รายได้จากโครงการ USO ในระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการบริการจัดการและบำรุงรักษาในระยะเวลาต่อเนื่อง 5 ปี โดยมีมูลค่าสัญญารวม 5 ปี กว่า 1,213 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ปีละ 271 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ อาทิ โครงการ Crouse Online และโครงการ MA Thai Post อีกทั้งทีมบริหารเน้นการลดต้นทุนการดำเนินงานให้ต่ำลง ซึ่งสามารถปรับปรุงได้ง่าย และเห็นผลทางตัวเลขได้ทันที คาดว่าจะเริ่มเห็นต้นทุนลดลงในไตรมาส 3/64 เป็นต้นไป
ด้านธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ภายใต้โครงการ SINET บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา กับบริษัท เอฟโอที เอ็มเอสโอ (FOT) บริษัทในเครือเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวีอันดับ 1 ของประเทศ เพื่อร่วมพัฒนาธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในโครงการ SINET ในพื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น เป็นต้น โดยนำทรัพยากรที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน เพื่อยกระดับสินค้าหรือบริการทั้งในด้านคุณภาพ และปริมาณ ให้สามารถเกิดความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดได้
“เราเชื่อว่าผลงานจะเติบโตขึ้น ทั้งจากรายได้ประจำตามแผนที่จะเข้าประมูลงานมากขึ้น และ HST เติบโตมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนไตรมาส 2 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อนแน่นอน” นายบุญเลิศ กล่าวทิ้งท้าย