กลุ่ม KPN เล็งเทกโอเวอร์ไรมอนแลนด์ โอนโครงการ”ณรงค์เดช”เข้าบริษัท แลกหุ้นเพิ่มทุนพีพี หวังเข้าตลาดหุ้นทางอ้อม
แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า กลุ่มเคพีเอ็น จะเข้าครอบงำกิจการ หรือเทคโอเวอร์ บริษัท ไรมอนแลนด์ (RML) คาดว่าจะประกาศตัวอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้ โดยกลุ่มณรงค์เดชจะโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวเข้าบริษัท แลกกับหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(พีพี) ทำให้กลุ่มเคพีเอ็นเข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ไรมอนแลนด์
“ดีลนี้ถือว่า WIN WIN บริษัทไรมอนแลนด์มีทรัพย์สินก้อนใหญ่มาบริหาร ส่วนกลุ่มเคพีเอ็นสามารถเข้าตลาดหุ้นทางอ้อมได้สำเร็จ หลังจากที่เคยตั้งเป้าหมายที่จะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์มาตั้งแต่ปี 2557 แล้วแต่ทำไม่ได้ “แหล่งข่าวกล่าว
ที่ผ่านมา บริษัทไรมอนแลนด์เคยอยู่ในหมวดบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูการดำเนินงาน และมีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่หลายครั้ง ครั้งล่าสุด เมื่อเดือนเม.ย. 2561 นาย จิรวุฒิ คุวานันท์ ประธานใหญ่แห่งโค้วยูฮะ ดีลเลอร์ใหญ่อีซูซุ ที่มีสาขาทั่วประเทศ และเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น ได้ซื้อหุ้นไรมอนแลนด์ ในราคาเฉลี่ย 1.20 บาทต่อหุ้น จากบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำนวน 375 ล้านหุ้น คิดเป็น 10.49% เมื่อรวมกับหุ้นที่มีอยู่จำนวน 8.81% ทำให้ นายจิรวุฒิ ถือหุ้นทั้งสิ้น 690 ล้านหุ้น คิดเป็น 19.30% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสองรองจาก JS ASSET MANAGEMENT PTE. LTD.ที่ถือหุ้นจำนวน 24.98% ขณะที่บริษัทไรมอนแลนด์มีผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งหมด 7,180 ราย ถือหุ้นรวมกันถึง 55.12% ของทุนเรียกชำระแล้ว
ทางด้านผลการดำเนินงานของบริษัทไรมอนแลนด์ถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ ปี 2558 จนถึง ไตรมาส 2/2561 มีกำไรสุทธิ 900 ล้านบาท 850 ล้านบาท 192 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 34 ล้านบาทตามลำดับ
ขณะที่ราคาหุ้นกลับปรับตัวขึ้นสวนทาง ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาราคาหุ้นลงไปต่ำสุดที่ 0.91 บาท และราคาสูงสุดที่ 1.50 บาท โดยเฉพาะวันที่ 10 ส.ค.2561ที่ผ่านมา ในภาคบ่ายมีแรงซื้อเข้ามามากจนผลักดันราคาขึ้นไปปิดที่ 1.48 บาท บวก 0.07 บาท คิดเป็น 4.96% สวนทางกับภาวะตลาดหุ้นโดยรวมที่ทรุดลง 16 จุด
สำหรับกลุ่มณรงค์เดช ภายหลังจากเข้ามาเทกโอเวอร์บริษัทไรมอนแลนด์ ถือว่าเป็นการนำบริษัทของกลุ่มแห่งที่สองเข้าตลาดหุ้น จากเมื่อปี 2548 นำบริษัทเคพีเอ็น ออโตโมทีฟ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก่อนจะขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดเกือบ 57% ให้กับบริษัท อาปิโก ไฮเทค(AH) ในปี 2550 หลังจากขายบริษัทที่ดำเนินธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ออกไป ก็เริ่มบุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2554 ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์ จำกัด ในการนำที่ดินของครอบครัวมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม เปิดตัวโครงการแรก The Cadogan คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ในซอยสุขุมวิท 39 มูลค่าโครงการกว่า 390 ล้านบาท ซึ่งประสบความสำเร็จปิดการขายได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน
ในปี 2555 เปิดตัวอีก 2 โครงการ คือ เดอะแคปปิตอล ราชปรารภ- วิภาวดี และเดอะแคปปิตอล เอกมัย-ทองหล่อ มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท และล่าสุดเปิดตัวโครงการ “เดอะ ดิโพลแมท สาทร” ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสุรศักดิ์ บน พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ครึ่ง มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท
กลุ่มเคพีเอ็น มีการซื้อที่ดินเก็บไว้หลายแปลง เมื่อมีเป้าหมายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้น แหล่งเงินทุนในช่วงแรก มีการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยการนำอาคารเคพีเอ็นขายเข้ากองทุน และนาย กฤษณ์ ณรงค์เดช พี่ชายคนโต ในฐานะประธานกรรมการบริหารของบริษัท เคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น ในฐานะบริษัทแม่ของบริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์ จำกัด มีเป้าหมายที่จะผลักดันให้บริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์เป็นหัวหอกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว พร้อมตั้งเป้าจะเปิดโครงการใหม่อย่างน้อย 2 โครงการ มูลค่าไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาท/ปี จึงจำเป็นต้องนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย