HoonSmart.com>>บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งแนะซื้อเก็งกำไรหุ้น CKP ให้ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท พายุโซนร้อน Koguma ฝนตกชุก เข้าโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี-น้ำงึม 2 หนุนกำไรไตรมาส 2 เด่น ไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นมาก หนุนทั้งปีนี้พุ่งขึ้น 449% บล.เคทีบีเอสที ปรับราคาเป้าหมายขึ้นที่ 6.20 บาท บล.คันทรี่เพิ่มเป็น 6.40 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะนำ ซื้อเก็งกำไรหุ้น CKP ให้ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท พายุเข้าและน้ำมาก คาดแนวโน้มกำไรในไตรมาส 2 จะโดดเด่นและไตรมาสที่ 3 เพิ่มมากขึ้น
แรงหนุนจากจีนปล่อยน้ำเข้าเขื่อนลงแม่น้ำโขงมาก ปีนี้ฝนเริ่มตกชุก และล่าสุดพายุโซนร้อน Koguma ได้เคลื่อนเข้าสู่สปป.ลาวตอนบน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ไซยะบุรี และน้ำงึม 2 จะหนุนน้ำเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ยอดขายไฟเดือน เม.ย.– พ.ค. สูงถึง 1,290 GWh และไตรมาสที่ 2 มีโอกาสจะขึ้นมาถึงระดับ 2,000GWh (+70%QoQ, +49%YoY)
ส่วนโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ได้ประกาศขายไฟไว้ที่ 510G Wh (+24%QoQ,+156%YoY) เมื่อรวมโรงไฟฟ้า BIC และ BKC ที่คาดจะทรงตัวจากไตรมาสแรก เบื้องต้นคาด CKP จะมีกำไรไตรมาสที่ 2 ที่เด่น 750 ล้านบาท โต 555% QoQ และดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน 95 ล้านบาท
แนวโน้มไตรมาสที่ 3 จะดีขึ้นอีก เนื่องจากเป็นฤดูที่พายุเข้า และน้ำหลากของทุกปี จะทำให้ CKP มีกำไรที่สูงถึง 900-1,000 ล้านบาท คาดกำไรปี 2564 จะทำสถิติสูงสุดใหม่(นิวไฮ) 2,160 ล้านบาทเติบโต 449% หนุนโรงไฟฟ้าไชยะบุรีกำไร 1,335 ล้านบาท โดย CKP ถือ 37.5% จะรับรู้กำไรเข้ามา 500 ล้านบาท
การที่เริ่มมีพายุลูกแรกเข้าตอนเหนือของลาว จึงมีแนวโน้มที่จะมีพายุอีกหลายลูกพัดเข้าตามมา เนื่องจากปีนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุจะเป็นปี LaNina ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าโรงไฟฟ้าไซยะบุรี และ น้ำงึม 2 มากขึ้น สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง 1,410 MW(CKP ถือหุ้น 42%) มูลค่าโครงการใกล้ไซยะบุรีคือ ประมาณ 1.35 แสนล้านบาท คาดจะได้ข้อสรุปและลงนามได้ในครึ่งปีหลัง
ด้านบล.เคทีบีเอสที ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นมาที่ 6.20 บาท จากเดิม 5.80 บาท เพื่อสะท้อนการถือหุ้นเพิ่ม 5% (รวมถือ 42.5%) ในโครงการไซยะบุรี คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2564 จากการอัพเดทสถานการณ์น้ำและการผลิตไฟฟ้าของโครงการหลักล่าสุดยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยโครงการน้ำงึม 2 เดือน เม.ย. และ พ.ค. ผลิตไฟฟ้ารวม เพิ่มขึ้น 210% YoY ส่วนโครงการไซยะบุรี +54% YoY
“ได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2564-2565 ขึ้นเป็น 1,800 ล้านบาทพุ่งขึ้น 367% และ 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% ปรับขึ้นจากเดิม 2% และ 8% ตามลำดับ”บล.เคทีบีเอสทีระบุ
ก่อนหน้านี้บล.คันทรี่กรุ๊ป ได้ปรับคำแนะนำเป็น”ซื้อ” และเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 6.40 บาท จากเดิมให้ไว้ที่ 5.30 บาท