HoonSmart.com>> “บี จิสติกส์” รุกถือหุ้นใหญ่ “เทพฤทธา” 51% หวังขยายฐานธุรกิจไปสู่ผู้ผลิตน้ำดิบ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจขนส่ง-โลจิสติกส์ มั่นใจผลประกอบการมีกำไรได้ทันที เหตุกลุ่มลูกค้าหลักมีสัญญาซื้อขายน้ำประปาในระยะยาว ถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี
นางสาวสุทธิรัตน์ ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานกรรมการ บริษัทบี จิสติกส์ (B) ผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้บริษัท เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท เทพฤทธา จำกัด จำนวน 204,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 294.11 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียน รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 60 ล้านบาท
นอกจากนั้นให้บริษัท บียอนด์ แคปปิตอล จำกัด (บริษัทย่อย) ปล่อยเงินกู้ให้ บริษัท เทพฤทธา จำนวน 30 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ธัญธาราชัย จำกัด (TTRC) จำนวน 35,000 หุ้น หรือ คิดเป็นสัดส่วน 70% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด จากผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทธัญธาราชัย ในราคาหุ้นละ 857.14 บาท (มูลค่าพาร์ 100 บาท) รวมเป็นเงินลงทุนทั้งหมด 90 ล้านบาท
วัตถุประสงค์ของการลงทุนครั้งนี้ เพื่อเป็นการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจผู้ผลิตน้ำดิบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น สามารถสร้างรายได้และผลกำไรให้บริษัทอย่างมั่นคง สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยบริษัทจะสามารถกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจหลักซึ่งเป็นธุรกิจขนส่ง (Transport) และ โลจิสติกส์ (Logistics)
“การเข้าถือหุ้นในบริษัทเทพฤทธา จำกัด ในครั้งนี้ ถือเป็นการขยายการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงและเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต เนื่องจากธุรกิจน้ำดิบเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ ปัจจัยพื้นฐาน เพราะการใช้น้ำยังมีความต้องการสูง และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นทุกปี อีกทั้งการที่บริษัทเข้าไปลงทุนในบริษัทที่เปิดดำเนินการแล้ว มีฐานลูกค้าเดิมที่มีสัญญาซื้อและขาย น้ำในระยะยาว ส่งผลให้บริษัทสามารถรับรู้ผลประกอบการที่มีกำไรได้ทันทีและถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีทั้งกับตัวบริษัท และผู้ถือหุ้น”นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าว
บริษัทเทพฤทธา จำกัด ตั้งอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี โดยผลการดำเนินงานงวดปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 83.61 ล้านบาท มีรายได้รวม 47.87 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 11.04 ล้านบาท ขณะที่ ณ วันที่ 30 เม.ย.2564 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 53.99 ล้านบาท มีรายได้รวม 13.35 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5.23 ล้านบาท