HoonSmart.com>>กรุงไทย จับมือ ธ.ก.ส. ยกระดับบริการการเงินและพัฒนาชุมชน ภายใต้โครงการ Sustainable Synergy สร้างโอกาสและความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจฐานรากผ่าน 5 โครงการ
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) โครงการ “Sustainable Synergy ประสานพลังสถาบันการเงินแห่งรัฐ พัฒนาไทยสู่ความยั่งยืน” ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงการคลัง กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อร่วมกันพัฒนาและยกระดับบริการทางการเงินให้เข้าถึงประชาชนครอบคลุมทุกมิติ สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก และช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ประกอบด้วย 5 โครงการ ได้แก่
1.) การให้บริการเครือข่ายเครื่อง ATM ร่วมกัน (White-Label ATM) ให้ลูกค้าบัตร Debit และ บัตร ATM ทั้ง 2 ธนาคาร สามารถทำธุรกรรมถอนเงิน และสอบถามยอดเงินคงเหลือ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการทำรายการต่างธนาคาร เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564
2.) เปิดให้ผู้ถือบัตร ATM และบัตร Debit ของ ธ.ก.ส. ครอบคลุมไปถึงบัตรอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) บัตรอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) และบัตรสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) สามารถซื้อสินค้าและบริการโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมผ่านเครื่อง EDC ของธนาคารกรุงไทย กว่า 76,000 เครื่องทั่วประเทศ ในร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าทั่วไป และผ่านแอปพลิเคชันที่ร้านค้าถุงเงิน รวมทั้งสามารถถอนเงินสดจากเครื่อง EDC กับตัวแทนธนาคาร (Banking Agent) ได้
3.) บริการดิจิทัลคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม สนับสนุนให้เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน นำสินค้ามาจำหน่ายด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจและแตกต่างผ่านฟีเจอร์ D-Market บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ตามแนวคิด “ไทยดี ไทยใช้ ไทยยั่งยืน”
4.) การเชื่อมโยงบัญชี e-Wallet สำหรับลูกค้า ธ.ก.ส. เพื่อใช้ชำระสินค้าและบริการผ่านแอปฯ เป๋าตัง
5.) บริการวายุคลาวด์ เป็นบริการคลาวด์สาธารณะภายในประเทศที่บริษัท กรุงไทยคอมพิวเตอร์เซอร์วิสเซส จำกัด (KTBCS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือธนาคารกรุงไทยพัฒนาขึ้นเป็น Open Source Software ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้เล็งเห็นศักยภาพ จึงนำร่องใช้วายุคลาวด์กับแอปพลิเคชันธนาคารต้นไม้ และกองทุนหมู่บ้าน
ด้าน นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ทำให้ลูกค้าทั้ง 2 ธนาคาร สามารถใช้บริการตู้ ATM ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านการใช้บริการทางการเงินให้กับลูกค้า