TNP รายได้ครึ่งปี 852 ล้าน โตกว่า 11% ปันผล 0.015 บาท

TNP โชว์ผลงานครึ่งแรกปี 61 รายได้จากการขายและบริการ 852 ล้านบาท โตกว่า 11% กำไรสุทธิเกือบ 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3% จากสาขาเก่าและขยายสาขาต่อเนื่อง คาดสิ้นปี 24 สาขา มั่นใจรายได้โต 10 – 15% ปันผลระหว่างกาล 0.015 บาท XD 17 ส.ค.นี้

นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ (TNP) ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 มีรายได้จากการขายและบริการ 852.36 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 767.18 ล้านบาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 11.10% กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 116.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 101.69 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 13.72% กำไรสุทธิอยู่ที่ 29.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 28.67 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 3.45%

อมร พุฒิพิริยะ, วัชชัย พุฒิพิริยะ

สำหรับงวดไตรมาส 2/2561 มีรายได้จากการขายและบริการ 429.96 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 389.75 ล้านบาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 40.21 ล้านบาท หรือ 10.32% กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 58.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 51.54 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 13.63% กำไรสุทธิอยู่ที่ 13.90 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 14.12 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 3.21% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพื่อสนับสนุนสาขาที่เติบโต ค่าเสื่อมราคาศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ และภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นรวมจำนวนประมาณ 7.65 ล้านบาท

พื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น คณะกรรมการมีมติการจ่ายปันผลระหว่างกาล งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2561 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2561 เป็นเงินสด 0.015 บาท/หุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 17 สิงหาคม 2561 วันที่จ่ายปันผล 3 กันยายน 2561

“ผลงานที่ออกมาเป็นไปตามคาดหมาย รายได้จากการขายและการให้บริการเติบโต ส่วนใหญ่มาจากการขยายสาขาของบริษัทฯ และการพิ่มขึ้นของรายได้จากสาขาเก่า มีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ราว 0.4% ขณะที่สัดส่วนต้นทุนขายและการให้บริการต่อรายได้จากการขายและการให้บริการ ในงวดไตรมาส 2/2561 และในงวดครึ่งปีแรกของปี 2561 มีแนวโน้มลดลงอยู่ที่ร้อยละ 86.37 และร้อยละ 86.28 ตามลำดับ สะท้อนการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ การขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่ารายได้จากการขายส่งของสำนักงานใหญ่ รวมทั้ง การได้รับค่าสนับสนุนการขายจากผู้จำหน่าย สนับสนุนกำไรขั้นต้นเติบโตขึ้น” นายธวัชชัย กล่าว

ด้านเภสัชกรหญิง อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการงวดครึ่งปีหลัง คาดจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาเที่ยวที่เชียงรายเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ประกอบกับ การติดตั้งเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 10 สาขา เพื่อรองรับการเข้ามาใช้งานของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างทั่วถึง

ในปี 2561 บริษัทฯ มั่นใจเป้าหมายรายได้ที่วางไว้จะเติบโตอีกร้อยละ 10 – 15 จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ราว 1,600 ล้านบาท และตั้งงบลงทุนสำหรับการขยายสาขาเพิ่มไม่เกิน 100 ล้านบาท จำนวน 5 สาขา นับเป็นการขยายอย่างระมัดระวังและรอบคอบ โดยปัจจุบันได้เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว 2 สาขา

ในจังหวัดเชียงราย อีก 3 สาขาอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่งผลให้ ณ สิ้นปี ธนพิริยะจะมีสาขารวมกันทั้งสิ้นจำนวน 24 สาขา จากเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมามี 19 สาขา แบ่งเป็นสาขาในจังหวัดเชียงรายจำนวน 22 สาขา และจังหวัดพะเยาอีก 2 สาขา รวมทั้งการบริหารสินค้าคงคลัง เพิ่มไลน์สินค้าใหม่เข้ามา เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น