HoonSmart.com>> “วายแอลจี” คาดแนวโน้มทองคำเดือนพ.ค.สดใส แนวต้าน 1,854-1,880 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ระยะสั้นอาจเผชิญแรงขายทำกำไรหลังปรับขึ้นแรง แนะหาโอกาสเข้าซื้อ มองภาพใหญ่ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น เฟดผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อ และรัฐบาลสหรัฐฯยังอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง มองกรอบปีนี้ 1,960-1,676 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หรือประมาณ 29,000-24,800 บาทต่อบาททองคำ
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า เดือนเม.ย.ที่ผ่านมาถือเป็นเดือนแรกนับจากต้นปีที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น ก่อนที่เดือนพ.ค.ราคาทองคำจะพยายามทดสอบ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หลายรอบก่อนมีแรงเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งการโดนเทขายในช่วงก่อนหน้ามาจากทั้งปัจจัยทางเทคนิค และการส่งสัญญาณของรมว.คลังสหรัฐที่ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้ทองคำเกิดการปรับฐาน
อย่างไรก็ดี จะเห็นว่าแรงขายที่ผ่านไม่ถือว่าเป็นการปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ภาพรวมยังทรงตัวได้ดี จนกระทั้งล่าสุดราคาทะลุผ่าน 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ในที่สุด
วายแอลจีมองกรอบการเคลื่อนไหวของทองคำในเดือนพ.ค. โดยมีแนวรับบริเวณ 1,782-1,739 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านมองที่ 1,854-1,880 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือคิดเป็นเงินบาทที่กรอบแนวรับล่างสุด 25,600 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านที่ 27,500 บาทต่อบาททองคำ
“ประเมินว่า แม้ในระยะสั้นทองคำอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง แต่มองว่าการปรับตัวลงจะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ เพราะยังมีจังหวะดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านได้อีก อย่างไรก็ดี ไม่แนะนำให้นักลงทุนซื้อไล่ราคา และเน้นลงทุนระยะสั้นในกรอบ พร้อมตั้งตัดขาดทุนทุกครั้ง เหตุเพราะภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคายังคงมีความผันผวน”นางพวรรณ์ กล่าว
สำหรับในระยะยาว วายแอลจียังมองว่าราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น เพราะแม้กระทรวงการคลังสหรัฐจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยังคงมีมุมมองว่าอัตราเงินเฟ้อยังไม่ได้ปรับขึ้นไปในระดับสูงและจะยังคงอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผน ปัจจัยเหล่านี้จึงยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำในระยะยาว โดยวายแอลจีให้กรอบทั้งปีไว้ที่ 1,960-1,676 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หรือประมาณ 29,000-24,800 บาทต่อบาททองคำ