HoonSmaty.com>> บลจ.วี มองโอกาสลงทุน “กลุ่มธุรกิจกัญชา” แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการขับเคลื่อนทั้งด้านการบริโภค การใช้เชิงสันทนาการและด้านการแพทย์ เตรียมเปิดขาย IPO “กองทุนเปิด วี แคนนาบิส บิสสิเนส (WE-CANAB)” ระหว่าง 5 -12 พ.ค.64 สร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ
นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วี จำกัด เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดของกัญชามีขนาดใหญ่ แต่เป็นประเภทกัญชาที่ผิดกฎหมายเป็นสัดส่วนใหญ่กว่าส่วนที่เป็นการใช้กัญชาถูกกฎหมาย เช่น กัญชาทางการแพทย์และ Adult-use คาดว่ากัญชาส่วนที่ใช้อย่างถูกกฎหมายจะเริ่มเติบโตขึ้นในปี 2021 และมี sharing เป็น 1 ใน 3 ของตลาดทั้งหมด
สัดส่วนของตลาดกัญชาที่ถูกกฎหมายคาดว่าอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีประมาณ 27% มีมูลค่าประมาณ 95,000 ล้าน USD ในปี 2025 จากระดับ 28,000 ล้าน USD ในปี 2020 ทั้งนี้ปัจจัยผลักดันสำคัญคือการออกกฎหมายรองรับการใช้กัญชาเพิ่มมากขึ้น โดยมีกลุ่มของ Adult-use และ CBD (Cannabidiol : เป็นสารที่ไม่มีผลออกฤทธิ์ทางจิตประสาท ช่วยบรรเทาอาการจากสารเคมีในร่างกาย ลดความเครียด อาการทางจิต โรคลมชัก) จะเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงสุด ขณะที่กลุ่มการใช้ทางการแพทย์จะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ในกลุ่ม Adult-use 46% ของผู้บริโภคประเภทสันทนาการในสหรัฐฯ มีการบริโภคกัญชาในอาหารเป็นปกติ รวมถึงเป็นส่วนผสมในประเภทเครื่องดื่ม ช็อคโกแลต และของหวานต่างๆ เป็นต้น ในกลุ่ม CBD oil มีมูลค่า Global CBD 24,000 ล้านUSD ในปี 2025 โดยมีตลาดหลักคือประเทศสหรัฐ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร โดยยอดขายหลักจะมาจากผลิตภัณฑ์ในรูปแบบทิงเจอร์ สเปรย์ และ การสูดดม
ในด้านกลุ่มผู้บริโภคหลักประมาณ 44% เป็นกลุ่ม Millennial ที่มีอายุระหว่าง 26-54 ปี รองลงมาคือ Gen X และ Gen Z ใกล้เคียงกัน โดยมีวัตถุประสงค์การใช้ส่วนใหญ่ 52% ผู้บริโภคใช้ทั้งเพื่อทางการแพทย์และสันทนาการ กลุ่มเพื่อสันทนาการอย่างเดียว 31% และกลุ่มผู้ป่วย 17%
นอกจากนี้การ Legalization ในตลาดสหรัฐฯ เป็นปัจจัยหลักของการเติบโตการใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย การออกกฎหมายรองรับการใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมายช่วยสร้างรายได้ให้กับหลายรัฐและเกิดการจ้างงาน ยกตัวอย่าง ในรัฐโคโลราโดมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเก็บภาษีจาก Adult-use รวมถึง มีการจ้างงานเพิ่มสูงขึ้นจากธุรกิจกัญชา โดยในปี 2020 การจ้างงานเพิ่มขึ้น 15% จากปี 2019 คาดการณ์ว่าในช่วงปี 2018 ถึง 2028 การจ้างงานที่เกี่ยวกับธุรกิจกัญชาจะเติบโตกว่า 250%
ด้วยแนวโน้มดังกล่าว บลจ.วี จึงเปิดเสนอขาย IPO กองทุนเปิด วี แคนนาบิส บิสสิเนส (WE-CANAB) ระหว่างวันที่ 5 -12 พ.ค. 2564 โดยกองทุน WE-CANAB จะเน้นลงทุนเชิงรุกด้วยการกระจายลงทุน (Active Asset Allocation) เน้นลงทุนในกลุ่ม Global Cannabis เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตของเงินลงทุนไปกับ Cannabis Business Ecosystem กระจายการลงทุนในธุรกิจกัญชา เน้นธุรกิจ Pure-play และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ ผ่านกองทุนหลัก ETFMG Alternative Harvest ETF สัดส่วนประมาณ 60% และลงทุนกองทุนหลัก Global X Cannabis ETF สัดส่วนประมาณ 40%
สำหรับตัวอย่างบริษัทที่กองทุนลงทุนเช่น 1. GW Pharmaceuticals plc ทำการวิจัยและพัฒนายา cannabinoid ที่ต้องสั่งโดยแพทย์ สำหรับการรักษาอาการปวดมะเร็ง เส้นโลหิตตีบหลายเส้นและอาการปวดจากระบบประสาท
2. บริษัท Aphria Inc. ผู้ผลิตและจำหน่ายกัญชาเพื่อการรักษาโรคและเพื่อการสันทนาการระหว่างประเทศ บริษัทดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางค้าปลีกและค้าส่งในแคนาดาและต่างประเทศ
3.) บริษัท Tilray เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกในการวิจัย การเพาะปลูก การแปรรูป และการจัดจำหน่ายกัญชา นอกจากนี้ยังเป็นผู้ผลิตกัญชาทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรอง GMP เพื่อจัดหาดอกกัญชาและสารสกัดจากกัญชาให้กับผู้ป่วย แพทย์ ร้านขายยา โรงพยาบาลรัฐบาลและนักวิจัยหลายหมื่นคนใน 5 ทวีป
4.) บริษัท Canopy Growth Corporation เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกัญชาเพื่อทางการแพทย์และสันทาการ
5.) Cronos Group Inc. ดำเนินธุรกิจ เกี่ยวกับกัญชาที่หลากหลายและครบวงจร บริษัทนำเสนอแพลตฟอร์มการผลิตและจำหน่ายกัญชาทางการแพทย์ ตลอดจนการเพาะปลูกน้ำมันกัญชา Cronos Group ให้บริการลูกค้าในประเทศแคนาดา
“บลจ.วี ประเมินว่า ช่วงการพัฒนาของตลาดกัญชายังอยู่ในระยะเริ่มต้น (Early Adoption) ภายหลังจากการได้รับอนุมัติทางกฏหมายอย่างแพร่หลาย จะนำมาซึ่งการวิเคราะห์ วิจัย และพัฒนา ผลิตภัณฑ์อีกมาก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในด้านต่างๆ กองทุน WE-CANAB จึงเป็นจังหวะสำหรับการลงทุนที่น่าสนใจ เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว จากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจกัญชาจากทั่วโลก ” นายอิศรา กล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.วี โทรศัพท์ 02-351-1800 กด 2 หรือตัวแทนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของ บลจ.วี ได้แก่ บล.เคทีบี (ประเทศไทย), บล.หยวนต้า , บล.โนมูระ, บล.เคจีไอ, บล.เอเชียเวลท์, บล.ฟิลลิป, บล.กรุงศรี, บล.ไทยพาณิชย์, บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์,บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บลน.โรโบเวลธ์, บลน.ฟินโนมินา, บลน.เวลท์ รีพับบลิค, บลน.เว็ลธ์เมจิก, บลน. แอสเซนด์ เวลธ์ และ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)