HoonSmart.com>> 7UP เปิดงบปี 63 กำไรสุทธิ 122 ล้านบาท โตกว้ากระโดด 162.74% รายได้ 1,301ล้านบาท โต 16.03% คุมค่าใช้จ่ายลด 27% ธุรกิจขายก๊าซแอลพีจีและน้ำมัน รับมือโควิด-19 ได้ดี สร้างกำไรขั้นต้นสูง 148 ล้านบาท ฐานะการเงินแกร่ง คาดล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง 206.85 ล้านบาทปีนี้ ตั้งเป้าปี 64 รายได้โต 50% แตะ2,000-2,200 ล้านบาท
นายมนต์เทพ มะเปี่ยม รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯในงวดปี 2563 มีกำไรสุทธิ 122.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าจำนวน 75.97 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 162.74% และมีรายได้รวม 1,301.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าจำนวน 179.79 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 16.03% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ท่ามกลางเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัทฯสามารถสร้างการเติบโตของผลประกอบการ เนื่องจากควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ทำให้ลดลงเป็นจำนวน 110 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการลดลง 27.22%จากปีก่อนหน้า
ขณะที่ธุรกิจเติบโตได้โดยมีกำไรขั้นต้นรวมจำนวน 148.48 ล้านบาท โดยหลักมาจากธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีและน้ำมัน ที่มีกำไรขั้นต้น 99.17 ล้านบาท แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดเมือง เกิดกระแสเน้นการทำงานจากบ้าน(Work from home) ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันและก๊าซแอลพีจี ลดลง แต่พบว่ายังเป็นสิ่งจำเป็นของประชาชนและภาคธุรกิจ เพื่อใช้ในการเดินทางและขนส่ง ประกอบกับธุรกิจอื่นๆ มีทิศทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวิทยุสื่อสารและInternet of Things(IoT) มีกำไรขั้นต้น 25.95 ล้านบาท และธุรกิจบำบัดน้ำมีกำไรขั้นต้นจำนวน 13.93 ล้านบาท
“ผลประกอบการในปี 2563 เติบโตก้าวกระโดด ทำให้ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากสิ้นปี 2562 มีจำนวน 1,516 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าขาดทุนสะสมลดลงถึง 1,109.26 ล้านบาท คงเหลือ 206.85 ล้านบาท และในปี 2564 นี้ หากบริษัทฯยังสามารถรักษาการเติบโตของผลการดำเนินงานได้ดี คาดว่าจะล้างขาดทุนสะสมให้หมดภายในปี 2564 นี้ ทำให้กลับมาเป็นบริษัทฯที่มีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลเพื่อตอบแทนผลประโยชน์ให้กับผู้ถือหุ้น แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท”นายมนต์เทพ กล่าว
สำหรับเป้าหมายธุรกิจในปี 2564 นี้ บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้ราว 2,000-2,200 ล้านบาท เติบโตราว 50% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากธุรกิจขายก๊าซแอลพีจีและน้ำมัน จะยังคงรักษาการเติบโตได้ดี และจะเริ่มได้รับงานต่อเนื่องในส่วนของธุรกิจบริหารจัดการงานวิศวกรรมทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทลูก คือบริษัท แซม วอเตอร์ซัพพลาย จำกัด (SAM) ซี่งปัจจุบันรับบำบัดน้ำให้กับฟาร์มกุ้งของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือCPF จำนวน 3 เฟส รวม 124,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และอยู่ระหว่างเจรจาดำเนินการในเฟสที่ 4 อีก 60,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงครึ่งหลังของปีนี้