SIMAT วิ่งทะลุฟ้า !!! ผู้ถือหุ้นสมานฉันท์ ผลงาน ”เทิร์นอะราวน์”

HoonSmart.com>>หุ้น SIMAT นิวไฮรอบ 1 ปี จ่อทะลุ 5 บาท กระแสผู้ถือหุ้นใหญ่ “สมานฉันท์” ผลงาน เทิร์นอะราวน์

สัญญาณการฟื้นตัวของราคาหุ้นบริษัท ไซแมท เทคโนโลยี  (SIMAT) ที่ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี แตะระดับ 4.92 บาท ก่อนปิดตลาดวันที่ 25 ก.พ.ที่ 4.78 บาท

ตัวแปรสำคัญมาจากเริ่มเห็น “สัญญาณ” การ “หย่าศึก” ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่มีอำนาจในการบริหาร และอีกกลุ่มที่ไม่มีอำนาจบริหาร จนถึงขั้นมีการรวมตัวกันขอใช้สิทธิตามมาตรา 100 เสนอให้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น วาระสำคัญคือการเปลี่ยนแปลง CEO และ CFO และเสนอรายชื่อคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อเข้ามานั่งบอร์ด

มีรายงานว่ามีผู้ใหญ่ที่เป็น “ตัวกลาง” ของทั้งสองฝ่าย ได้ติดต่อเจรจา เพื่อหา”ทางออก” และแก้ปัญหาความขัดแย้งในช่วงที่ผ่านมา จบลงด้วยความ “สมานฉันท์” พร้อมกลับมาเดินหน้าธุรกิจ ซึ่งในปี 2564 จะเป็นปีที่ “เทิร์นอะราวด์” เต็มรูปแบบ จากการรับรู้รายได้-กำไร ธุรกิจเน็ตห่างไกล และจากแผนการเข้าตลาดหุ้นของบริษัทลูก “ฮินซิซึ”

SIMAT เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร ทั้งจำหน่ายฮาร์ดแวร์ พัฒนาซอฟท์แวร์ บำรุงรักษา

นอกจากนี้ ยังมี บริษัทลูก ฮินซิซึ (ประเทศไทย) จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับ skill screen สำหรับแผงวงจรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และ เป็นผู้ผลิตสติกเกอร์, ลาเบล, เทมเพลท ที่เกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แผงควบคุมในเครื่องซักผ้า , กระติกน้ำร้อน ,ไมโครเวฟ, ฉลากคู่มือการใช้ต่าง ๆ ลูกค้าหลัก คือ Toshiba, Canon, Ricoh, Sharp, Panasonic  และมีธุรกิจอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ตลาดผู้บริโภค ในชื่อ SINET

“จุดเปลี่ยน” ในปี 2561 บริษัทฯ ตัดสินใจ ตั้งสำรองการด้อยค่าโครงการเครือข่ายในธุรกิจบรอดแบนด์ สำหรับตลาดผู้บริโภค จำนวน 480 ล้านบาท โดยธุรกิจ บรอดแบนด์ ปี 2561 ขาดทุนสุทธิเป็นเงิน 48 ล้านบาท  เป็นค่าใช้จ่ายค่าเสื่อม 54 ล้านบาท

ถ้าไม่นับค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมยังสามารถทำกำไรได้ แต่ที่ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจตั้งสำรองด้อยค่าทั้งโครงการ เนื่องจากประสบภาวะการแข่งขันที่สูง และเริ่มมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี

อีกทั้งรายใหญ่ ได้เข้ามาเพิ่มในตลาด ทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคา  ในธุรกิจอินเตอร์เนตบรอดแบนด์  โดยบริษัทฯ ได้ตัดสินใจ หยุดธุรกิจในส่วนโครงการบรอดแบนด์ตลาดผู้บริโภค ไปตั้งแต่ปี 2562  และหันมา “โฟกัส” กับธุรกิจที่เหลือแทน

กระทั่งขณะนี้  แต่ละธุรกิจยูนิต ของ SIMAT เริ่ม “ตั้งหลัก” กลับมาทำกำไรได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะธุรกิจลาเบล รวมถึงบริษัทที่ SIMAT ทำการปิดดีล เข้ามาใหม่ บริษัท ฮินซิซึ (ประเทศไทย) ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ แผงวงจรไฟฟ้า อิเล็กโทรนิคส์  Silk Screen สำหรับแผงวงจรไฟฟ้า

“จุดเปลี่ยน” ที่สำคัญของ SIMAT และเป็นแหล่งที่มาของรายได้ประจำ (Recurring Income) ของบริษัทฯ รองรับแผนการเติบโตในอนาคตคงหนีไม่พ้น การที่บริษัทฯได้เข้าร่วมประมูลประกวดราคา  แล้วได้ผลชนะการประกวดราคาในช่วง ก.ย.2561  โดยเป็นการประกวดราคา การให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) กลุ่มที่ 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2

งานระยะที่ 1  งานติดตั้ง  บริษัทฯเริ่มรับรู้รายได้ ในปี 2562 ทำให้ ผลการดำเนินงาน “พลิกมีกำไร” ตั้งแต่ในปี 2562 โดยมีกำไรสุทธิ 69.03 ล้านบาท เทียบปี 2561ขาดทุนสุทธิสูงถึง 492.52 ล้านบาท และปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 8.5 แสนบาท

และ กสทช. ได้แจ้งให้ บริษัทฯเปิดให้บริการงานบริการ ระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค 2563 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ จะรับรู้รายได้งานบริการระยะที่ 2 เป็นระยะเวลา 5 ปี ตามสัญญา ทั้งสิ้น 1,470 ล้านบาท รับรู้ 5 ปี 10 งวดสัญญา งวดละ 6 เดือน จะรับงวดแรกงานบริการ ในเดือน มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป

รายได้สำหรับงานระยะที่ 2  คาดว่าจะสร้างรายได้ ปีละ 270 ล้านบาท  หรือเดือนละประมาณ 20-24 ล้านบาทโดยงาน ระยะที่ 2 นี้จะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า งานติดตั้ง ในระยะที่ 1

“ตรงนี้เป็นเหมือนกระแสเงินสดที่จะเข้ามา อย่างสม่ำเสมอ ทั้งรายได้ และกำไร สำหรับ SIMAT  ในแต่ละปี ต่อไป   โดยหลังจากที่ตัดสินใจ ตั้งด้อยค่า  Big Bath  โดยตั้งด้อยค่าทั้งโครงการอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ทั้งก้อน รวมถึง ด้อยค่าเงินลงทุนในต่างประเทศไป ถือว่าเป็นบริษัทที่ Clean ทีเดียว

หลังจากนี้  ต้องมาจับตาดูแต่ละส่วนธุรกิจของ SIMAT  จะสร้างฐานกำไรใหม่ ไปในทิศทาง “ขาขึ้น” ได้ขนาดไหน โดยเฉพาะบริษัทลูก “ฮินซิซึ”  ที่ถือได้ว่าเป็น “ลูกกตัญญู” สร้างรายได้ และกำไรให้กับบริษัทฯแม่อย่างเป็น “กอบเป็นกำ” ยิ่งมีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงปลายปี 2564 ด้วยแล้ว ไม่ต้องบอกว่า SIMAT จะโกยกำไรมากแค่ไหน

“กำไร”ของ SIMAT ที่กำลังกลับมาสร้างฐานใหม่….สอดคล้องกับ “ราคาหุ้น” ที่กำลังสร้างฐานใหม่

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ให้แนวรับที่ 4.82 และ 4.74 บาท แนวต้านที่ 5.20 และ 5.60 บาท

ถือเป็นการเปิดฉาก “เทิร์นอะราวด์” ทางธุรกิจ และการเข้าสู่ “ขาขึ้น” รอบใหม่ของราคาหุ้น SIMAT