HoonSmart.com>> “ลีซ อิท” ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปี 64 เติบโต 10% รุกขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เดินหน้าปล่อยสินเชื่อให้หลากหลายขึ้นครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม พร้อมกำหนดกลยุทธ์หลัก เน้นตอบโจทย์ลูกค้า SMEs ยุค New Normal ผ่านการตลาดยุค Digital ที่มีแนวโน้มเติบโตดี พร้อมคุม NPL และคัดกรองลูกค้าใหม่ มั่นใจหนุนเติบโตยั่งยืน
นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท (LIT) เปิดเผยว่า ปี 2564 บริษัทเน้นการตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น โดยปรับแพคเกจสินเชื่อให้เหมาะสมกับ SMEsในยุค New Normal มากขึ้นโดยเน้นกลุ่มธุรกิจดาวเด่นที่น่าจับตามองในปี 2564 รวมถึงพัฒนาในส่วนลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relation Management) ในกลุ่มลูกค้าเดิมโดยมีเป้าหมายเพิ่มการเติบโตในกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มาจากช่องทาง Digital Marketing 100% จากปี 2563 และตั้งเป้าเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรวมที่ 10% จากปีก่อน ที่อยู่ที่ 2,728.44 ล้านบาท
ภาพรวมปี 2564 บริษัทฯ ยังคงโฟกัสไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักที่เป็น ผู้ประกอบการ SMEs ที่จดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นขนาด Micro ขนาดเล็ก และขนาดกลาง โดยเฉพาะSMEs ที่เป็นคู่ค้ากับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ เช่น เทศบาล อบจ. อบต. โดยยังคงสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้กับ SMEs ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นแฟคตอริ่ง (Factoring) หรือการรับซื้อเอกสารวางบิล ใบตรวจรับ โดยSMEs สามารถเบิกเงินสดล่วงหน้าก่อน 80-90% ของมูลค่าเอกสาร
สินเชื่ออื่นๆ เช่น เงินกู้สนับสนุนโครงการ (Project Backup Financing), สินเชื่อออกหนังสือคำประกันซองประมูล (Bid Bond), สินเชื่อ Leasing Hire Purchase ซึ่งในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีผู้ประกอบการ SMEs จำนวนมากที่ปรับตัวหันมาประกอบธุรกิจที่สอดรับกับการใช้ชีวิตแบบ New Normal มากขึ้น เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย เครื่องมือทางการแพทย์ หรือธุรกิจ e-commerce หรือ Logistic และมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Young Entrepreneurs) เกิดขึ้น โดยกลุ่มอายุผู้ประกอบการรุ่นใหม่จะอยู่ในช่วง 30-45 ปี มีความรู้เทคโนโลยี และติดตามข่าวสารผ่านทาง Social media จะเห็นได้ว่าจากผลงานที่ผ่านมาในปี 2563 LIT มีสัดส่วนลูกค้าจากช่องทาง Digital Marketing เพิ่มขึ้นถึง 50% เทียบจากปี 2562 คิดเป็นสัดส่วน 14% ของจำนวนลูกค้าใหม่ทั้งหมดปี 2563
“บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อ ตามแผนการเติบโตอย่างยั่งยืนมาตลอด และในปี 2564 มีเป้าหมายกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อ โดยจำกัดสัดส่วนธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรมไม่เกิน 25% ของพอร์ต และมีเป้าหมายคงสัดส่วนลูกหนี้ภาครัฐที่ 80% และลูกหนี้เอกชนขนาดใหญ่ที่ 20% ของพอร์ตสินเชื่อ” นายสมพลกล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทฯมีการบริหารจัดการกลุ่มสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) โดยเข้าไปดูแลและบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด (Close monitoring) เพื่อป้องกันการเพิ่มจำนวนของลูกค้ากลุ่มนี้ โดยมีนโยบายช่วยเหลือลูกหนี้ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 อีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผน BCP (Business Continuity Planning) เพื่อรองรับแผนการทำงานอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายเพื่อคงความสามารถในการเติบโตทั้งในส่วนของฝ่ายปฏิบัติการ และพร้อมกับบริหารความเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บริหารแหล่งเงินทุน และความเสี่ยงด้านสินเชื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วย