HoonSmart.com>> “เถ้าแก่น้อย” ยันผู้ถือหุ้นใหญ่กอดหุ้นแน่นกว่า 50% ไม่มีนโยบายเพิกถอนบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ ยันเป้าหมายยอดขาย 1 หมื่นล้านบาทปี 2567 แย้มกลยุทธ์ปีนี้ หาพันธมิตรธุรกิจ กำลังคุยหลายเจ้า นักลงทุนยังคงลุยเก็บหุ้น รอข่าวดี ด้านนักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยเกือบ 14 บาท
หุ้นบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง ( TKN ) เปิดตลาดที่ราคา 11.20 บาท ลดลง 0.20 บาท และยังคงมีแรงขายออกมา กดลงไปต่ำสุดที่ 10.90 บาท ร่วงลง 0.30 บาท ก่อนมีแรงซื้อหนุน ดีดกลับขึ้นไปสูงสุดที่ 11.90 บาท และปิดที่ 11.60 บาท + 0.20 บาทหรือ 1.75% ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นกว่า 510 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2564 หลังจากบริษัทปฎิเสธข่าวลือ กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ปิดดีลขายหุ้นให้ต่างประเทศ
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวลือปรากฏในสื่อออนไลน์ว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯได้ปิดดีลขายหุ้นให้กับบริษัทผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวและของว่างแบรนด์ชั้นนำของโลก และเตรียมถอนหุ้นของบริษัทฯ ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทฯ ขอยืนยันว่ากระแสข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นมากกว่า 50% และเน้นย้ำว่าไม่มีนโยบายเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างใด
บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศตามแผนที่ตั้งไว้ แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้บุกตลาดในประเทศ โดยเปิดตัวสินค้าใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์นมพลาสเจอไรส์รสชานม ‘จัสท์ดริ้งค์’ และได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภค รวมทั้งมีแผนออกผลิตภัณฑ์ โคแบรนด์ (Co-Brand) ร่วมกับผู้นำตลาดในกลุ่มสินค้าอื่นตลอดทั้งปี
ส่วนตลาดต่างประเทศยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดผ่านพันธมิตรทางธุรกิจควบคู่กับการสร้างแบรนด์เถ้าแก่น้อยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยยังคงเป้ายอดขายเดิม 10,000 ล้านบาทภายในปี 2567 ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะเป็น Innovative Food Company ตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายจิระพงษ์ สันติกภิรมย์กุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง ( TKN ) กล่าวว่า กลยุทธ์ดำเนินงานประจำปี 2564 บริษัท ฯ มีแผนขยายธุรกิจเพื่อให้ทันกับคู่แข่งในตลาด หนึ่งในนั้นคือ การหาพันธมิตรทางธุรกิจที่เหมาะสม ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่กับหลายรายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อช่วยขยายตลาดเอเชีย สหรัฐ และยุโรป หลังจากที่บริษัทมีพันธมิตรที่จีนแล้ว
ส่วนรูปแบบความร่วมมือมีได้หลายรูปแบบ อาจจะขายหุ้น แต่นายอิทธิพัทธ์ ยังต้องบริหารงานอยู่และยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลักอยู่
นักวิเคราะห์ 6 ใน 7 ต่างแนะนำซื้อหุ้น TKN คาดกำไรต่อหุ้นในปีนี้เติบโตก้าวกระโดดมากกว่า 33-56% และให้เป้าหมายสูงถึง 14 บาทสำหรับราคากลาง และราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 13.84 บาท โดยบล.เคทีบีเอสที ตีมูลค่าสูงสุดถึง 15.40 บาท ตามด้วยบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ 15.00 บาท ส่วนคันทรี่กรุ๊ป (ประเทศไทย) และบล.กสิกรไทยประเมินเท่ากัน 12.50 บาท แต่ยังสูงกว่าราคาในตลาดปัจจุบัน