โดย….สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน” เป็นคำเตือนที่คุ้นหูคุ้นตามากพอๆกับคำเตือนเครื่องดื่มชูกำลังสมัยก่อนที่ว่า “ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด โปรดสังเกตุคำเตือนบนฉลากก่อนดื่มทุกครั้ง” นับว่าเป็นความหวังดีของภาครัฐที่ต้องการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ลงทุนโดยเฉพาะประชาชนทั่วไปที่มีข้อเสียเปรียบมากมายเมื่อเทียบกับนักลงทุนรายใหญ่ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวม นักลงทุนต่างชาติ หรือพวกเจ้าทั้งหลาย แม้จะรู้ว่าเสียเปรียบ แต่เพราะดอกเบี้ยทึ่ต่ำติดดิน ขณะที่ของแพงขึ้นทุกวัน แต่รายได้ไม่ขึ้นตามแถมที่เพิ่มขึ้น คือ ความไม่มั่นคงในการงาน
ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องบริหารเงินออมของเราให้ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น สำหรับบางคนอาจต้องการร่ำรวย แต่กับอีกหลายคน เหตุผลที่ลงทุน อาจเพราะต้องการเงินสำหรับการดำรงชีวิต เงินที่ลงทุนส่วนใหญ่เป็นเงินที่หาด้วยความยากลำบาก บางคนอาจเป็นเงินก้อนเดียวในชีวิต โดยเฉพาะพวกเกษียณอายุที่ผมเคยเจอมา
เพื่อบริหารเงินลงทุนให้ได้ผลตอบแทนบนความเสี่ยงที่สูงขึ้น สิ่งที่ประชาชนทั่วไปหรือ รายย่อย สามารถทำได้ ก็คือ การศึกษาหาความรู้ และ การศึกษาหาข้อมูล เพื่อจะได้ใช้ความรู้ที่ถูกต้องบนข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง แม้จะไม่มีการการันตีว่าจะได้กำไร 100% แต่อย่างน้อยก็ช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนได้ระดับหนึ่ง
แต่หากมองในสังคมปัจจุบัน การศึกษาหาความรู้การลงทุนที่ถูกต้อง จะเห็นเลยนะว่ามีหลายๆที่เปิดอบรม ไม่รู้ว่ามาตรฐานได้หรือไม่ และเมื่อดูค่าอบรม บางที่แพงมากด้วยเมื่อเทียบกับหัวข้อการบรรยาย ไม่รู้ว่าทางภาครัฐมีนโยบายเข้าไปกำกับดูแลคุณภาพมาตรฐานของสถาบันเหล่านี้หรือไม่ วันก่อนเห็นข่าวสั่งปิดหลักสูตรที่ไม่ได้มาตรฐานของมหาวิทยาลัยบางแห่งเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของนักศึกษาที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาและเสียเงินไปเรียน แต่จบออกมาแล้วไม่มีใครยอมรับ อยากเห็นข่าวนี้ในวงการการลงทุนเช่นกัน
การศึกษาหาข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่ามีความรู้แล้ว ศึกษาข้อมูลอย่างดีแล้ว จะตัดสินใจลงทุนได้ดี เพราะสมัยนี้ยอมรับจริงๆ ไม่ค่อยอยากจะเชื่อแล้วว่าข้อมูลที่ประกาศออกมาเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะจะดูงบการเงิน ก็มีบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ๆ งบการเงินก็มีหนี้โผล่ออกมา หรือ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทอยู่ๆก็ประกาศนโยบายอย่างหนึ่ง อีกสองวันก็ประกาศนโยบายอีกอย่างหนึ่ง หรืออย่างบางคนที่เล่นหุ้นโดยอาศัยเทคนิค วันดีคืนดี หุ้นที่ดูไปได้ดี อยู่ๆกลับปักหัวลงติดฟอร์ก็มี ก็หวังว่าภาครัฐ (อีกแล้ว) จะช่วยดูแลความถูกต้องของข้อมูลให้ด้วยเช่นกัน (ช่วงหลังๆเห็น ก.ล.ต. สั่งปรับ ลงโทษผู้ที่กระทำผิดในการซื้อขายหลักทรัพย์อยู่บ่อยๆ ก็แอบดีใจว่า อย่างน้อยเรามีภาครัฐที่เข้มแข็ง เอาจริง ในการรักษากฎหมายและรักษาประโยชน์ของประชาชน
แต่ขณะเดียวกัน ก็แอบกลัวลึกๆ เพราะเคยเรียนรู้ “ทฤษฎีแมลงสาบ” ที่ว่า “เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นแมลงสาบในบ้าน 1 ตัว อย่าคิดว่ามีแค่ตัวเดียว ยังมีอีกหลายตัว” ดังนั้น เราก็อย่าประมาทคิดว่า คนทำผิดจะไม่มีอีก ที่เจออาจเป็นแค่เคสเล็กๆ แค่น้ำจิ้มก็เป็นได้ และก็อย่าวางใจว่าภาครัฐจะสามารถจับคนทำผิดได้ทุกคน
สิ่งที่สำคัญสำหรับเราก็คือ การรักษาเงินต้น ด้วยการศึกษาหาความรู้ให้มากขึ้น หาข้อมูลให้มากขึ้น มีสติให้มากขึ้น อย่าวางใจข่าวหรือข้อมูลให้มากขึ้น หรือถ้าไม่มีเวลา ผมก็ยังเชื่อว่า การลงทุนในกองทุนรวมน่าจะช่วยได้ในระดับหนึ่งนะ