HoonSmart.com>> “เมืองไทย แคปปิตอล” ออกหุ้นกู้ 2 รุ่น ขายผู้ลงทุนทั่วไประหว่าง 18-19 และ 22 ก.พ.64 ชูอายุ 2 ปี 2 วัน ผลตอบแทน 2.95% ต่อปี ส่วนอายุ 3 ปี 19 วัน จ่าย 3.23% ต่อปี ระดมทุนรองรับแผนขยายพอร์ตสินเชื่อ หนุนธุรกิจติดปีก “ปริทัศน์ เพชรอำไพ” มั่นใจนักลงทุนตอบรับ ธุรกิจเติบโตสม่ำเสมอ ผลตอบแทนน่าพอใจ เรทติ้ง BBB+
นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย หุ้นกู้ อายุ 2 ปี 2 วัน อัตราผลตอบแทน 2.95 % ต่อปี และหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 19 วัน อัตราผลตอบแทน 3.23 % ต่อปี โดยคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 18-19 และ 22 ก.พ.2564
ทั้งนี้ อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้อยู่ที่ BBB+ แนวโน้ม “คงที่” ประเมินโดย ทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ครั้งนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายพอร์ตสินเชื่อ
“มั่นใจว่าหุ้นกู้ของ MTC จะได้การตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนเช่นที่ผ่านมาทุกครั้ง เนื่องจากธุรกิจของ MTC มีอัตราการเติบโตที่สม่ำเสมอ แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 สะท้อนผ่านอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB+ จาก ทริสเรทติ้ง แสดงให้เห็นถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกัน และฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ทั้งยังสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรที่ดี เสถียรภาพของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่เป็นไปตามเป้าเสมอ ตลอดจนแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย ทั้งหมดนี้ทำให้สถานะสภาพคล่องของบริษัทฯ อยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้ปีที่ผ่านมา MTC ได้รับรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards 2020 สาขาความเป็นเลิศด้านการบริหารทางการเงิน ซึ่งจัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งสะท้อนให้เห็นเป็นอย่างดีว่า MTC มีความสามารถบริหารทางการเงินดีเด่น และเป็นที่ยอมรับจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรธุรกิจชั้นนำของประเทศ”นายปริทัศน์ กล่าว
MTC เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อย โดย ณ วันที่ 30 ก.ย.2563 บริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 4,798 สาขา (ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายของบริษัทที่จะขยายสาขาให้ถึง 4,700 แห่งภายในสิ้นปี 2563 ไปแล้ว) กระจายอยู่ใน 74 จังหวัดทั่วประเทศ มีกำไรสุทธิสำหรับงวดเก้าเดือนที่ 3,844 ล้านบาท มีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมที่ระดับ 1.06% ซึ่งอยู่ระดับเดียวกับสิ้นปี 2562 และมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่ยังไม่เบิกใช้ จำนวนทั้งสิ้น 9,853 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องที่เพียงพอ บริการของบริษัทแบ่งเป็น 5 ธุรกิจได้แก่ ธุรกิจให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถ ธุรกิจให้บริการสินเชื่อที่มีโฉนดที่ดินและห้องชุด (คอนโด) เป็นหลักประกัน ธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล ธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย
สำหรับผู้สนใจลงทุนหุ้นกู้จองซื้อผ่านสาขาของธนาคารกรุงเทพ (ยกเว้นสาขาไมโคร) ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารกสิกรไทยและบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร