การส่งออกญี่ปุ่นไปสหรัฐมิ.ย.ลดลง 0.9% ชะลอตัวครั้งแรกรอบ 17 เดือน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การส่งออกสินค้าของญี่ปุ่นไปสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 17 เดือน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจสั่นคลอนท่ามกลางความกังวลต่อนโยบายกีดกันการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
การส่งออกของญี่ปุ่นไปสหรัฐเดือนมิถุนายนลดลง 0.9% จากระยะเดียวกันของปีก่อน จากการลดลงของการส่งออกรถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ เครื่องจักรอุปกรณ์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออก 2 กลุ่มหลัก โดยการส่งออกรถยนต์ลดลง 12% การส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ลดลง 40.2%
ด้านการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐลดลง 2.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้การกินดุลการค้าของญี่ปุ่นที่มีกับสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 590.3 พันล้านเยน
การอ่อนตัวของการส่งออกได้สร้างความกังวลให้กับผู้กำหนดนโยบาย ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะกดดันให้ญี่ปุ่นต้องใช้มาตรการหนักเพื่อลดการเกินดุลการค้าที่มีกับสหรัฐ
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การส่งออกของญี่ปุ่นโดยรวมยังขายตัวดีแต่ที่กังวลคือ ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการเจรจา เรื่องภาษี และการแตกแยกทางการค้าอาจจะส่งผลให้การลงทุนชะลอตัว
มูลค่าการส่งออกเหล็กไปสหรัฐลดลง 17.2% ในเดือนมิถุนายน เป็นการลดลงมากครั้งแรกตั้งแต่กรกฎาคมปีที่แล้ว ขณะที่ปริมาณการส่งออกเหล็กลดลง 32.3% เป็นการลดลงครั้งแรกรอบ 3 เดือน
นักวิเคราะห์มองว่าการมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเหล็กและอลูมิเนียมจากต่างประเทศของสหรัฐเริ่มมีผล แม้การส่งออกเหล็กของญี่ปุ่นมีสัดส่วนไม่มากนักต่อการส่งออกรวม และมาตรการนี้สร้างผลกระทบทั่วโลก
การส่งออกโดยรวมของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 6.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และคาดว่ายังคงเติบโตต่อเนื่องเพราะความต้องการตลาดโลกยังมีมาก ขณะที่การนำเข้ารวมเพิ่มขึ้น 2.5% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 721.4 พันล้านเยน