• ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากข่าวดีเรื่องความคืบหน้าของการพัฒนา วัคซีน COVID-19 ที่ได้ทยอยรายงานผลการทดลองตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. และล่าสุดบริษัท Pfizer/BioNTech คาดว่าจะมีการแจกจ่ายวัคซีนในสหรัฐฯ และประเทศพัฒนาแล้วที่รัฐให้การสนับสนุนบริษัท อาทิ ยุโรป ญี่ปุ่นและอังกฤษ ในช่วงกลางเดือนหน้า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังอยู่ในระดับที่สูง แต่นักลงทุนให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้ามากกว่า นับเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นในระยะนี้
• ดัชนี PMI ภาคการผลิตอย่างเป็นทางการเดือน พ.ย. ของประเทศหลักส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ขยายตัว โดยดัชนีสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง -1.8 จุด เป็น 57.5 จุด ต่ำกว่าตลาดคาด แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ดัชนียุโรปปรับตัวลดลง -1.0 จุด เป็น 53.8 จุด แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ดัชนีจีน โดย Caixin ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.3 จุด เป็น 54.9 จุด สูงกว่าตลาดคาด ดัชนีญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มข้ึน +0.3 จุด เป็น 49.0 จุด สูงสุดในรอบกว่า 1 ปี และดีกว่าตลาดคาด
• ยอดผู้ว่างงานขอรับสวัสดิการครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ลดลง 7.5 หมื่นราย เป็น 7.12 แสนราย ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ย. โดยนับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ และดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 7.75 แสนราย อย่าไรก็ดี นับเป็นอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของ COVID-19
• วุฒิสภาของทั้งพรรค Republican และ Democrat สหรัฐฯ ร่วมกันเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากเป็นการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมก่อนที่รัฐบาลใหม่จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค. คาดว่าสภาอาจเร่งผ่านมาตรการที่จำเป็นก่อน เช่น โครงการสวัสดิการว่างงานเพิ่มเติม และงบประมาณประจำปี 2021 ที่จะต้องโหวตให้ผ่านก่อนวันที่ 11 ธ.ค.นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด Government Shutdown ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก้อนใหญ่คาดว่าจะเกิดข้ึนหลังรู้ผลสรุปการเลือกตั้งวุฒิสภาในวันที่ 5 ม.ค. 2021
• ผลการประชุม OPEC+ มีมติปรับเพิ่มการผลิต 5 แสนบาร์เรลต่อวัน เหลือเป็นการลดการผลิตที่ -7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนมกราคม 2564 โดยย้ำว่าประเทศสมาชิกที่ยังผลิตเกินโควต้าในช่วงที่ผ่านมาคือ อิหร่าน ลิเบีย และ เวเนซุเอล่า ยังคงต้องลดปริมาณการผลิตชดเชยต่อไป
• ปรับคำแนะนำจากคงน้ำหนักการลงทุนเป็นเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในน้ำมัน จากข่าวดีเรื่องวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 ที่จะช่วยหนุนการฟื้นตัวของอุปสงค์
ตลาดหุ้นไทย : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน
ตลาดหุ้นเกาหลี : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน
ตลาดหุ้นจีน : แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน A-Shares และหุ้นจีน H-Shares
ตลาดหุ้นยุโรป : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน
ตลาดหุ้นอินเดีย : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน
ตราสารหนี้ไทย : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนใน SCBFP
ตราสารหนี้ต่างประเทศ : แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน SCBUSHY และ SCBINC
