ตลท.ส่องหุ้นไทยยังน่าสนใจลงทุนยาว นักกลยุทธ์กอดมากกว่ารายย่อย

HoonSmart.com>>ตลาดหลักทรัพย์ออกบทวิจัย สะท้อนตลาดมีความน่าสนใจลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว เปิดข้อมูล 9 เดือนปีนี้ แห่เปิดบัญชีใหม่กว่า 5.5 แสนบัญชี เพิ่มเท่าตัวกว่าปกติปีละ 2.3-3.3 แสนบัญชี  พบหุ้นส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือของคนไทยมากถึง 73% ต่างชาติถือเพียง 27% สัดส่วนใกล้เคียงตลาดหุ้นญี่ปุ่น-ไต้หวัน ที่สำคัญหุ้นในส่วนคนไทยมากกว่าครึ่งหนึ่งถือครองโดยนักกลยุทธ์ที่ลงทุนระยะยาวมากกว่ารายย่อย

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยสุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ และบุษบา คงปัญญากุล วิจัยเรื่อง”ส่องตลาดหุ้นไทย ผ่านโครงสร้างผู้ถือหุ้น” พบว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 มีการเปิดบัญชีใหม่เพื่อซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 554,000 บัญชี สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากปกติเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 230,000 – 330,000 บัญชี ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนก.ย.มีบัญชีซื้อขายกว่า 3.32 ล้านบัญชี จากนักลงทุนรวม 1.45 ล้านราย เพิ่มขึ้นกว่า 170,000 ราย หรือ 13.68%จากเดือนม.ค.2563

ที่สำคัญ จากการปิดสมุดทะเบียนของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)จำนวน 695 บริษัท พบว่า ณ สิ้นเดือนส.ค.2563มีสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนในประเทศถึง 73% นักลงทุนต่างประเทศถือครองเพียง 27% ซึ่งสัดส่วนใกล้เคียงกันกับตลาดหุ้นญี่ปุ่นและตลาดหุ้นไต้หวัน ทั้งนี้“นักลงทุนบุคคล” มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวมสูงสุดทั้งในตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นไต้หวันที่ระดับ 28% และ 36% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด(มาร์เก็ตแคป) ตามด้วย บริษัทเอกชนหรือหน่วยงานต่างๆ ภายในประเทศ ที่ระดับ 18.0% และ 22.7% ตามลำดับ

สำหรับบัญชีใหม่ที่เพิ่มขึ้น 554,000 บัญชี เกือบทั้งหมดคือกว่า 553,000 บัญชี เป็นบัญชีซื้อขายฯ ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเพิ่มขึ้น 22% ไปอยู่ที่ 3.02 ล้านบัญชี มีข้อสังเกตว่าโดยเฉพาะในเดือนมี.ค.-มิ.ย.2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง มีการเปิดบัญชีการซื้อขายฯ ผ่านอินเทอร์เน็ตมากกว่าเดือนละ 77,000 บัญชี

ขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยยังมีมูลค่าการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนกลยุทธ์ (strategic investors) หมายถึง นักลงทุนที่มีส่วนร่วมในการบริหารกิจการ ให้ความสำคัญกับการถือครองหุ้นระยะยาวมีสัดส่วน 54.74% อยู่ในระดับใกล้เคียงกับนักลงทุนรายย่อย (free float) สัดส่วน 45.26% ของมาร์เก็ตแคป แสดงว่า ตลาดหุ้นไทยมีทั้งนักลงทุนที่ลงทุนระยะยาวและนักลงทุนที่ทำกำไรในระยะสั้นในสัดส่วนที่ไม่แตกต่างกันมาก และหากพิจารณาตามสิทธิการออกเสียง (voting right) ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น พบว่า นักลงทุนถือครองหุ้นตรงกับสิทธิการออกเสียงฯ คือส่วนใหญ่เป็น local shares 73% รองลงมา คือ foreign shares 21% และ NVDR 6% สอดคล้องกับนักลงทุนต่างประเทศที่ถือครองหุ้น 27% เท่ากับการถือครองหุ้น foreign shares และ NVDR รวมกัน

“ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจทั้งการลงทุนในระยะสั้นและระยะยาวและมีสภาพคล่องในการซื้อขายในระดับสูง ทำให้ตลาดยังคงน่าสนใจในระยะยาว โดยมีนักลงทุนกลยุทธ์ถือครองหุ้นมากกว่าครึ่งหนึ่งของตลาด และเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูง สังเกตได้จากนักลงทุนรายย่อยที่มีมูลค่าการถือครองกว่า 40% และมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันที่สูงกว่าตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในอาเซียน ”

“นักลงทุนกลยุทธ์” ตามคำนิยาม จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. ผู้บริหาร 4 อันดับแรกขององค์กร รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและมีความสัมพันธ์ อาทิ คู่สมรส บุตร ธิดา เป็นต้น 2.ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นเกินกว่า 5% ของทุนชำระแล้ว โดยนับรวมการถือหุ้นของผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย ยกเว้น บางหน่วยงานตามคำนิยาม 3.ผู้มีอำนาจควบคุม หรือ ผู้ที่มีพฤติการณ์มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบาย หรือการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าอิทธิพลดังกล่าวจะสืบเนื่องจากการเป็นผู้ถือหุ้น หรือได้รับมอบอำนาจตามสัญญา หรือการอื่นใดก็ตาม

นอกจากนี้ตลาดยังแบ่งหุ้นเป็น 2 กลุ่มคือสำหรับนักลงทุนไทย(local shares) และสำหรับนักลงทุนต่างประเทศ(foreign shares) ที่มีจำนวนจำกัดตามเพดานการถือครองฯ ของแต่ละบริษัท ซึ่งนักลงทุนทุกคนสามารถซื้อขายหุ้นได้ทั้ง 2 กลุ่ม แต่ความแตกต่างจะเกิดขึ้นเมื่อมีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิประโยชน์ต่างๆ นักลงทุนไทยถือหุ้นในส่วน foreign shares จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ใดๆ เช่นเดียวกันกับ นักลงทุนต่างประเทศถือ local shares ดังนั้นเพื่อสนับสนุนการลงทุนระยะยาวของนักลงทุนต่างประเทศ จึงจัดให้มีหุ้นกลุ่ม NVDR (Non-Voting Depository Receipts) เพื่อเป็นอีกทางเลือก โดยนักลงทุนต่างประเทศได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงินแต่ไม่มีสิทธิในการออกเสียง


จากข้อมูลการถือครองหุ้น ปี 2563 พบว่า 73% เป็น local shares ตามมาด้วย foreign shares 21% และ NVDR ประมาณ 6% ซึ่งสอดคล้องกับ มูลค่าการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนต่างประเทศเท่ากับ 27% ซึ่งยังคงมีรูปแบบเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนต่างชาติถือหุ้น local share ลดลงไปอีกจากที่เคยถือต่ำมาก หุ้นเกือบทั้งหมดในพอร์ตการถือครองหุ้นของนักลงทุนไทย สัดส่วน 99.84% สะท้อนการถือหุ้นได้ตรงตามกลุ่มหุ้นที่แบ่งไว้