HoonSmart.com>> บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะกลยุทธ์ลงทุนเดือนธ.ค.แนะซื้อจังหวะราคาหุ้นอ่อนตัว ชู 5 ธีมลงทุน พร้อมหุ้นเด่น AMATA-AP-BTSGIF-PTT-TSR
บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นไทย แนะนำเลือกซื้อจังหวะราคาหุ้นอ่อนตัว โดยประเมินว่าเศรษฐกิจและกำไรบจ.และตลาดหุ้นไทยจะเติบโตจากฐานต่ำได้ในปี 2564 สำหรับเดือนธ.ค.63 หุ้นแนะนำอยู่ใน 5 ธีม คือ
1. โครงการลงทุนในพื้นที่ EEC มีความคืบหน้า ภาพรวมการลงทุนดีขึ้นในปี 64 หุ้นเด่น ได้แก่ AMATA ราคาพื้นฐาน 18 บาท
2. ธุรกิจมั่นคง ไปได้ดีในระยะยาว Valuation ไม่แพงจ่ายปันผลสม่ำเสมอ หุ้นเด่น ได้แก่ AP ราคาพื้นฐาน 8.1 บาท
3. ธุรกิจฟื้นตัวจากการมีวัคซีนป้องกันโควิด-19…หุ้นเด่น คือ BTSGIF ราคาพื้นฐาน 7.2 บาท
4. ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันฟื้นตัว ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจโลก หุ้นเด่น PTT ราคาพื้นฐาน 43 บาท
5. หุ้นเล็ก จิ๋วแต่แจ๋ว หุ้นเด่น TSR ราคาพื้นฐาน 5.1 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/63 คาดว่าจะมีอัตราการฟื้นตัวเมื่อเทียบไตรมาสก่อนที่ชะลอลง เมื่อเทียบกับการฟื้นในช่วงไตรมาส 3/63 เทียบกับไตรมาส 2/63 ที่เป็นฐานต่ำ เพราะมีการ Lockdown อย่างไรก็ตาม ยังมีโมเมนตัมบวกต่อและอาจจะถึงไตรมาส 1/64 ด้วย โดยมีปัจจัยหนุนหลักคือ มาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวในประเทศของรัฐบาล
สำหรับมาตรการที่อาจจะออกมาเพิ่มเติม คือ คนละครึ่งเฟส 2, โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ ที่ทางก.อุตสาหกรรมเสนอมา และอาจจะนำเรื่องให้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 (ศบศ.) ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้, การสนับสนุนท่องเที่ยวเมืองรอง, การต่ออายุมาตรการพักชำระหนี้และให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เป็นต้น
ส่วนปัจจัยความเสี่ยงที่เข้ามาในช่วงไตรมาส 4/63 คือ ค่าเงินบาทแข็ง, ปัญหาการเมืองในประเทศ, ทรัมป์ทิ้งทวนกดดันบริษัทจีน โดยเตรียมขึ้นบัญชีดำบริษัท Semiconductor manufacturing international corporation (SMIC) และ China national offshore oil corporation (CNOOC) โดยอ้างว่าเป็นบริษัทของกองทัพจีน
นอกจากนี้ติดตามว่าธปท.จะออกมาตรการดูแลค่าเงินบาทเพิ่มเติมหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งได้ต่อ เพราะการเกินดุลการค้าและเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่อง