HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 470 จุด รับข่าววัคซีนของโมเดอร์นา ตลาดหุ้นยุโรปบวกยกแผง ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น WTI ปรับขึ้นกว่า 3%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average :DJIA) ปิดตลาด วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ที่ 29,950.44 จุด เพิ่มขึ้น 470.63 จุด หรือ +1.60% หลังจากบริษัทโมเดอร์นา ผู้ผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เปิดเผยผลการทดสอบระยะที่ 3 กลบความกังวลต่อการระบาดจากการที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,626.91 จุด เพิ่มขึ้น 41.76 จุด,+1.16%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,924.13 จุด เพิ่มขึ้น 94.84 จุด,+0.80%
ตลาดปรับตัวขึ้นตั้งแต่เปิดการซื้อขายและปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังโมเดอร์นาแถลงว่า การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นครั้งแรกของการทดลองระยะที่ 3 พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ 94.5% ในสัปดาห์ที่แล้วไฟเซอร์เปิดเผยว่าวัคซีนของบริษัทที่ร่วมพัฒนากับไบโอเอ็นเท็คมีประสิทธิภาพกว่า 90% นอกจากนี้ยังมีหลายบริษัทที่กำลังพัฒนาวัคซีนทำให้มีความหวังว่าวัคซีนจะช่วยสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสได้
โมเดอร์นาระบุว่า วัคซีนของบริษัทไม่เสื่อมลง หากเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 36-46 องศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งเป็นระดับเดียวตู้เย็นในบ้านหรือตู้เย็นทางการแพทย์ไว้เป็นเวลา 30 วัน และสามารถเก็บได้นาน 6 เดือนในระดับอุณหภูมิ -4 องศาฟาเรนไฮต์ แต่วัคซีนของไฟเซอร์ต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิ -94 องศาฟาเรนไฮต์
โมเดอร์นาคาดว่า จะสามารถส่งมอบวัคซีนจำนวน 20 ล้านโดสให้สหรัฐฯได้ภายในสิ้นปีนี้ เพราะบริษัทกำลังจะผลิตวัคซีน 500 ล้าน ถึง 1 พันล้านโดส
อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังระมัดระวังเพราะยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะมีวัคซีนออกจำหน่ายและยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ส่วนประเทศใหญ่ในยุโรป ทั้ง ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษต้องล็อกดาวน์รอบสอง
หุ้นโมเดอร์นาเพิ่มขึ้น 9.5%
หุ้นที่ได้รับผลบวกจากการเปิดเศรษฐกิจนำการปรับตัวขึ้น หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 5.2%, หุ้นคาร์นิวัลเพิ่มขึ้น 9.7% หุ้นกลุ่มธนาคารก็เพิ่มขึ้น โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป หุ้นเวลลส์ ฟาร์โกต่างเพิ่มขึ้นกว่า 3%หุ้นเจพี มอร์แกน เชสเพิ่มขึ้น 2.8%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในช่วงการระบาดต่างลดลง โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ลดลง หุ้นแอมะซอนปิดไม่เปลี่ยนแปลง
นักวิเคราะห์จากเนชั่นไวด์ ระบุว่า ข่าวดีจากวัคซีนหนุนหุ้นกลุ่มวัฎจักรเศรษฐกิจและหุ้นคุณค่า ขณะที่แนวโน้มการออกมาตรการใหม่ ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ราคาหุ้นที่ยังขึ้นไม่มาก และแนวโน้มการค้าโลกที่ดีขึ้นจากการที่โจ ไบเดนเข้ามาบริหาร ต่างหนุนให้มีการสลับกลุ่มเล่น
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่เพิ่มขึ้น 4.2%หลังบริษัทโมเดอร์นา ผู้ผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แถลงว่า การทดลองระยะที่ 3 พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ 94.5% ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็วขึ้น ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจในเอเชียมีสัญญานฟื้นตัว
อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังกังวลต่อการระบาดเพราะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่มีผลการศึกษาของ National Cancer Institute (INT) ในกรุงมิลาน อิตาลี พบว่า การระบาดของไวรัสในอิตาลีเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2019 สะท้อนว่า ไวรัสแพร่ระบาดก่อนที่จะอุบัติขึ้นในจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 389.74 จุด เพิ่มขึ้น 4.56 จุด, +1.18%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,421.29 จุด เพิ่มขึ้น 104.90 จุด, 1.66%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,471.48 จุด เพิ่มขึ้น 91.32 จุด, +1.70%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,138.61 จุด เพิ่มขึ้น 61.89 จุด, +0.47%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบ เดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 41.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 43.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว
https://hoonsmart.com/archives/151600

