LEO ลั่นผลงานปี 63 ดีขึ้น ลุยซื้อกิจการ 2-3 ราย

HoonSmart.com>>“ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์” โลจิสติกส์ครบวงจร ยันครึ่งหลังปี 63 โตต่อเนื่อง สัญญาณการเดินเรือฟื้นดี นำเงิน IPO ขยายลงทุน ซื้อกิจการ 2-3 บริษัท คาดชัดเจน 1 ราย ปลายปี 64 ผลักดันผลงานปี 65-66 โต 30-40% จากปีนี้  หุ้นเข้าเทรด mai วันแรก แจกกำไร 7.60% 

เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ รองประธานคณะกรรมการบริษัท ประธานคณะผู้บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2563 จะเติบโตดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 45.87 ล้านบาท และในครึ่งหลังนี้จะไม่น้อยกว่างวด 6 เดือน ที่มีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท เนื่องจากสัญญาณธุรกิจเดินเรือและคอนเทนเนอร์ที่ดีขึ้น และธุรกิจเกี่ยวกับการสั่งสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซทั้งในประเทศและต่างประเทศมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้น คาดว่าการเติบโตจะต่อเนื่องไปถึงครึ่งแรกของปี 2564

นอกจากนี้บริษัทฯจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก (IPO)  ลงทุนธุรกิจ Leo Self-Storage & E-Fulfillment Center จำนวน 2 โครงการ ใช้เงินประมาณ 80 ล้านบาท  คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตในปี 65-66 ประมาณ 200% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้เพียง 1%   ขยายพื้นที่บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ งบประมาณ 60 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงมากกว่า 40% เนื่องจากใช้ผู้ดูแลไม่มาก  อีกทั้งจะใช้เงินกว่า 239 ล้านบาท ในการซื้อกิจการ 2-3 บริษัท ทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียน (AEC)  คาดว่าบริษัทในประเทศ  1 แห่ง ที่เกี่ยวกับธุรกิจขนส่งทางอากาศ  เพื่อเพิ่มรายได้จากที่มีสัดส่วนเพียง 19% และ 2 บริษัทที่จะซื้ออยู่ในกลุ่มประเทศ AEC เป้าหมายเป็นบริษัทที่มีรายได้ประมาณ 100-200 ล้านบาท/ปี  และมีกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปลายปี 2564 จะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 ราย

“หลังจากที่นำเงิน IPO ไปลงทุนครบแล้ว บริษัทฯจะมีผลการดำเนินงานปี 2565-2566 เติบโต 30-40% จากปี 63 และหากเงินไม่เพียงพอ  ก็ยังมีความสามารถในการกู้ยืมจากสถาบันอีกมาก  ปัจจุบันมีเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินเพียง 20 ล้านบาท”นายเกตติวิทย์กล่าว

ส่วนหุ้นน้องใหม่ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรครอบคลุมทั่วโลก “LEO” เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 5 พ.ย.  ราคาเปิดที่ 3.68 บาท สูงกว่าราคาไอพีโอที่  3.42 บาทประมาณ 7.60 % และราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 3.74 บาท ก่อนปิดที่  3.62 บาท +0.20 บาท คิดเป็น+5.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 488 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายครึ่งวันแรก

นายเกตติวิทย์ กล่าวว่า  ราคาหุ้น LEO  สูงกว่าราคาจอง มองว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพและแนวโน้มการเติบโต โดย LEO หุ้นบลูชิพ ที่มีความมั่นคงและมีความเสี่ยงต่ำ  เหมาะสำหรับการถือลงทุนระยะยาว เพราะเป็นทั้งหุ้นที่เติบโตเร็ว (Growth Stock) และหุ้นปันผลสม่ำเสมอ (Dividend Stock)  มั่นใจว่าการที่มีเครือข่ายทั่วโลกมากกว่า 190 ประเทศในการให้บริการขนส่ง จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้า และช่วยผลักดันให้รายได้และกำไรเติบโต

อ่านข่าวประกอบ

LEO เปิดเทรดราคา 3.68 บาท เหนือราคาจอง 7.60%