คลุกวงในหุ้น : อย่าแตะหุ้นพี/อี สูง

โดย….สุนันท์ ศรีจันทรา

www.HoonSmart.com “เสนอความจริงทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 9 กรกฎาคม 2561

@@ มีคำแนะนำจากโบรกเกอร์ เตือนนักลงทุนให้หลีกเลี่ยงหุ้นที่มีค่าพี/อี เรโชหรือสัดส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นสูงๆ เพราะมีความเสี่ยง โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีต้นทุนต่ำอาจเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งเกิดขึ้นแล้วกับหุ้นหลายตัว

@@ กรณีล่าสุดคือหุ้นบริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด(มหาชน)หรือ BEUATY ซึ่งเคยมีค่าพี/อี เรโชระดับ 50-60 เท่า และกลุ่มไกรภูเบศ ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ทยอยขายหุ้นออก

@@ หุ้นที่มีค่าพี/อี เรโชสูง และสูงกว่าค่าพี/อี เรโชเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์หรือสูงกว่าค่าพี/อี เรโชเฉลี่ยของหุ้นในกลุ่มเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงอยู่แล้ว

@@ แต่การที่นักลงทุนแห่กันเข้าไปเล่นนั้น เพราะคาดหมายว่า แนวโน้มผลกำไรจะเติบโตสูงต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้พี/อีในอนาคตลดลง โดยอาจมีแรงเชียร์จากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์กระตุ้นการตัดสินใจ

@@ การนำความคาดหวังแนวโน้มผลกำไรของบริษัทฯมาเป็นสมมุติฐานในการประเมินราคาหุ้น เป็นหลักพื้นฐานทั่วไปในการวิเคราะห์หุ้น แต่สำหรับตลาดหุ้นไทย นักลงทุนไม่ควรตั้งความคาดหวังแนวโน้มการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนมากเกินไป

@@ เพราะผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนจำนวนไม่น้อย เป็นนักโฆษณาชวนเชื่อ ขี้โม้ หรือจงใจสร้างภาพแนวโน้มผลประกอบการอย่างเพ้อฝัน เพียงเพื่อกระตุ้นราคาหุ้นเท่านั้น และนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ก็นำคำโฆษณาชวนเชื่อมา เชียร์ให้นักลงทุนซื้อหุ้นเสียอีก

@@ นักลงทุนที่ระมัดระวังความเสี่ยง ลงทุนแนวอนุรักษ์ จะไม่ปักใจเชื่อผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนง่ายๆ ไม่ให้ความสนใจกับหุ้นที่มีค่าพี/อีฯสูงเท่าใดนัก และจะพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานหุ้นในปัจจุบันมากกว่าการให้ความสำคัญกับการซื้อหุ้นบนความคาดหวังผลประกอบการในอนาคต

@@ เพราะถ้าผลประกอบการอนาคตไม่เป็นไปที่คาดหวัง จะเกิดความเสียหาย และนัดลงทุนพังกับหุ้นที่มีค่าพี/อีสูงมากนักต่อนักแล้ว

@@ หุ้นที่มีค่าพี/อีฯสูง หรือหุ้นที่ไม่มีค่าพี/อีให้คำนวณ เพราะไม่มีผลกำไร ควรเป็นหุ้นที่ตายซาก ไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน แต่ปรากฏว่า หุ้นเหล่านี้ ในบางช่วงเวลากลับเป็นหุ้นเก็งกำไรยอดนิยม โดยมีกระบวนการเชียร์ให้นักลงทุนเข้าไปเล่น โดยอ้างว่า เป็นหุ้นที่กำลังฟื้นตัวกลับหรือหุ้นเทิร์นอะราวด์

@@ ไม่มีค่าพี/อี เรโชให้คำนวณ เพราะผลประกอบการไม่มีกำไร หรือ่าพี/อี เรโชระดับพันเท่า นักลงทุนเคยแห่เข้าไปลุยกันมาแล้ว สุดท้ายเจ็บหนักกันออกมา

@@ และไม่สามารถเรียกร้องความรับผิดชอบกับใครได้ ไม่ว่าผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่คุยโม้เกินจริง หรือนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่หลับหูหลับตาเชียร์ตะบัน

@@ ตลาดหุ้นปรับฐานใหญ่รอบนี้ หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่มีค่าพี/อี เรโชสูงๆ ถูกทุบกระเจิง และเป็นอีกบทเรียนสำหรับนักลงทุน ในการเลือกเฟ้นหุ้น

@@ จะตัดสินใจเลือกหุ้นด้วยอารมณ์ความรู้สึก ภายใต้การครอบงำด้วยการเก็งกำไร และไม่ให้ความสำคัญกับหุ้นที่มีค่าพี/อี เรโชสูงๆไม่ได้แล้ว

@@ ทุกคนต้องปรับแนวคิด อย่าให้น้ำหนักความคาดหวังแนวโน้มการเติบโตของบริษัทจดทะเยียนมากเกินไป แต่หันมาให้ความสำคัญกับผลประกอบการที่เกิดขึ้นจริง อิงการตัดสินใจกับปัจจัยพื้นฐานหุ้นในปัจจุบัน และประเมินแนวโน้มผลประกอบการบนสมมุติฐานที่เป็นไปได้อย่างมีเหตุมีผล

@@ เจ็บกันรอบนี้ ถือเป็นการเรียนรู้ ไม่จำเป็นอย่าแตะหุ้นพี/อีฯสูงๆ เพราะถ้าตลาดหุ้นเกิดการปรับฐานใหญ่ หุ้นพี/อี สูง จะเป็นกลุ่มแรกๆที่จะถูกทุบขาย

@@ ถูกทุบขายจนเละ ราคารูดจนนักลงทุนร้อวงกันระงม