โดย…บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)
https://www.morningstarthailand.com/th
ความคืบหน้าวัคซีนโดย AstraZeneca
สัปดาห์ที่แล้วบริษัท AstraZeneca ได้มีการหยุดการทดสอบวัคซีน AZD1222 ชั่วคราวจากที่มีอาสาสมัครเกิดอาการป่วยที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด การพักการทดสอบวัคซีนนี้เป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่อาจมีการหยุดการทดสอบกรณีที่อาสาสมัครเกิดอาการผิดปกติ เพื่อที่จะมีการตรวจสอบหรือสืบสวนถึงสาเหตุของอาการป่วยดังกล่าว
ปัจจุบัน AstraZeneca ถือเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตยาที่กำลังเร่งวิจัยและพัฒนาวัคซีนสำหรับโควิด-19 ซึ่งมีการวิจัยในหลายกลุ่มตัวอย่างในหลายประเทศเช่น สหราชอาณาจักร แอฟริกาใต้ และบราซิล โดยความคืบหน้าล่าสุดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทได้กลับมาทำการวิจัยวัคซีนในเฟส 3 ต่ออีกครั้งในประเทศอังกฤษ
(การทดลองในเฟส 3 เป็นหนึ่งในขั้นการทดลองทางคลินิกโดย เฟส 1 เป็นการทดลองในคนกลุ่มเล็ก ก่อนจะเข้าสู่เฟส 2 ที่มีการทดลองในกลุ่มใหญ่ขึ้น ที่แบ่งเป็นกลุ่มที่มีลักษณะตรงกับกลุ่มเป้าหมายเช่น ช่วงอายุหรือสุขภาพร่างกาย และเฟส 3 เป็นขั้นตอนการทดลองในกลุ่มใหญ่ระดับพันคนเพื่อทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย, ที่มา: ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา)
นอกจาก AstraZeneca แล้วยังมีบริษัทอื่นที่กำลังอยู่ในช่วงวิจัยและพัฒนาวัคซีนสำหรับไวรัสโควิด-19 เช่น Pfizer, Johnson & Johnson, Merck และบริษัทอื่น ๆ ที่อาจอยู่ในช่วงการพัฒนาวัคซีนที่แตกต่างกันไป ซึ่งเป็นบริษัทที่มีกองทุนรวมไทยในกลุ่ม Global Health Care ลงทุนโดยผ่านกองทุน master fund ในต่างประเทศ
กองทุนกลุ่ม Global Health Care
กองทุนกลุ่มนี้เคยได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงปี 2014-2015 โดยเคยมีมูลค่าทรัพย์สินสูงสุดที่ระดับ 6 หมื่นล้านบาทจากกองทุนเปิดใหม่จากหลาย บลจ. ในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตามผลตอบแทนเฉลี่ยในปี 2016 ติดลบที่ระดับ -13.8% อาจเป็นเหตุผลที่นักลงทุนให้ความสนใจน้อยลง และมีเงินไหลออกสุทธิต่อเนื่อง
ปัจจุบันกองทุนกลุ่ม Global Health Care มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.8% จากสิ้นปี 2019 โดยมีสาเหตุหลักคือผลตอบแทนที่ถือว่าค่อนข้างดี โดยมีค่าเฉลี่ยผลตอบแทนสะสม 8 เดือนที่ 11.6% ในขณะที่มีปริมาณเงินไหลเข้าในช่วง 8 เดือนแรกถือว่าที่ไม่สูงนัก รวม 1.1 พันล้านบาท แต่ถือว่ามีทิศทางที่เปลี่ยนไปจากในอดีตที่มีเงินไหลออกต่อเนื่องมาเป็นเวลา 4 ปี
มุมมองต่อ Health Care
อุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพถือว่าเป็นกลุ่มที่นักลงทุนให้ความสนใจเนื่องจากข่าวการพัฒนาวัคซีน Covid-19 ที่ส่งผลต่อ sentiment โดยรวม ซึ่งทางมอร์นิ่งสตาร์ได้มองประเด็นหลัก ๆ ที่มีผลต่อธุรกิจนี้คือ 1) การวิจัยและพัฒนาที่จะส่งผลบวกต่อผลตอบแทนในหุ้นกลุ่มนี้ 2) นโยบายด้านสวัสดิการสุขภาพในสหรัฐฯ ที่ ณ ปัจจุบันทั้ง โจ ไบเดน หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ได้มีนโยบายที่จะปฏิรูปสาธารณสุข ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อกลุ่มธุรกิจนี้ 3) ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ทำให้กลุ่ม health care ถือว่าเป็นหุ้น defensive ไปโดยธรรมชาติ ในขณะที่ธุรกิจอื่นได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว
อย่างไรก็ตามหากดูที่มูลค่าหุ้นในปัจจุบันหลายบริษัทถือว่าปรับตัวขึ้นมาพอสมควร รวมทั้งบริษัทที่มีการพัฒนาวัคซีนรายใหญ่มีข่าวมาก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ได้เป็นไปในลักษณะที่หวังผลกำไรมากหรือผลิตวัคซีนราคาแพง ทำให้ทางมอร์นิ่งสตาร์มองว่าจะเป็นส่วนเสริมให้บริษัทมี goodwill ที่ช่วยให้มีอำนาจต่อรองด้านราคาของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ในอนาคต
นักลงทุนที่สนใจควรคำนึงถึงการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงมากกว่า เนื่องจากการลงทุนในลักษณะกองทุนที่เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเช่นนี้อาจทำให้มีผลตอบแทนที่ผันผวนได้มากกว่ากองทุนกลุ่มอื่น