ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 630 จุด วิตกสหรัฐ-จีนตึงเครียด ทรัมป์ขู่ตัดความสัมพันธ์ศก.

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 630 จุด วิตกความตึงเครียดสหรัฐ-จีน ทรัมป์ขู่ตัดความสัมพันธ์เศรษฐกิจ นักลงทุนขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่อเนื่อง ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ด้านราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 7% เบรนท์หลุดต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตาม WTI ปิด 36.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 8 กันยายน 2563 27,500.89 จุด ลดลง 632.42 จุด หรือ 2.25% จากแรงเทขายทำกำไรต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนวิตกความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนอย่างมาก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน และกลุ่มอื่นที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ ที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง สลับกับแรงซื้อในกลุ่มที่ราคายังปรับตัวตามหลังตลาด ก่อนที่ตลาดจะปิดทำการในวันจันทร์นี้เนื่องในวันแรงงาน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,331.84 จุด ลดลง 95.12 จุด, -2.78%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,847.69 จุด ลดลง 465.44 จุด, -4.11%

ดัชนี Nasdaq ซึ่งปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมา 5 เดือนจากกลุ่มเทคโนโลยีได้ลดลงมาอยู่ในเขตปรับฐาน หลังจากที่ดิ่ง 10% จากระดับสูงสุด และลดลง 3.3% ในสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี DJIAลดลง 1.8% ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.3% ซึ่งเป็นการลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน

นักลงทุนมองว่า ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อยู่ในระดับสูง เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าจากผลกระทบของไวรัสโควิด สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศซึ่งรวมทั้งความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน และการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน เป็นปัจจัยเสี่ยง

หุ้นแอปเปิลลดลง 6.72%หุ้นเฟซบุ๊กลดลง 4.09%หุ้นไมโครซอฟต์ลดลง5.41% หุ้นแอมะซอนลดลง 4.39% หุ้นอัลฟาเบทลดลง 3.68%

นอกจากนี้นักลงทุนยังจับตาบริษัทซอฟต์แบงก์ในญี่ปุ่นหลังจากที่ร่วงลงมา 7% เพราะถือครอง options ที่เชื่อมโยงกับหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯไว้จำนวนมาก

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากคำแถลงข่าวในวันแรงงานของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ว่า “เราจะทำให้อเมริกาเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกและเราจะยุติการพึ่งพาจีนอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการตัดขาดความสัมพันธ์หรือใช้มาตรการภาษีอย่างที่ผมใช้มาก่อนแล้ว เรากำลังจะยุติการพึ่งพาจีน เพราะเราไม่สามารถวางใจจีนได้”

ขณะเดียวกันจีนออกมาเปิดเผยว่าจะเริ่มกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลของโลก Global Standards on Data Security เพื่อตอบโต้สหรัฐฯที่กันเทคโนโลยีจีนไม่ให้มีส่วนในเครือข่าย

นักวิเคราะห์จาก บีเคแอสเซ็ทแมเนจเมนท์ระบุว่า คำแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ กดดันตลาด ทำให้นักลงทุนวิตกต่อความตึงเครียดระหว่างสองประเทศมากขึ้นเพราะสหรัฐฯเองใกล้ถึงวันเลือกตั้ง และความขัดแย้งนี้อาจะมีผลต่อกลุมเทคโนโลยี เนื่องจากจีนประกาศว่าจะผลิตชิปของตัวเองและภาคการผลิตจะลดการพึ่งพาโนว์ฮาวเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนยังกดดันหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป โดยหุ้น Nvidia ลดลง 5.62% หุ้นอินเทล ลดลง 2.34%

สินเชื่อผู้บริโภคเดือนกรกฎาคมขยายตัว 3.6% จากเดือนมิถุนายนเป็น 12.3 พันล้านดอลลาร์ จากการซื้อสินค้ารถยนต์ใหม่และการชำระค่าบำรุงการศึกษาหลังจากที่หดตัว 20% ในเดือนเมษายน

หุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 8.8% ระหว่างวันหลุดจากระดับ 37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 2.30% หุ้นเชฟรอน ลดลง 3.61%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่ลดลง 2% ตามกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนวิตกความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่เพิ่มขึ้น

จีดีพีไตรมาสสองของยูโรโซนที่ปรับใหม่หดตัว 14.7% จากระยะเดียวกันของปีก่อนและ 11%จากไตรมาสก่อนหน้า และดีกว่าที่คาดแต่ก็ติดลบมากสุดเป็นประวัติการณ์

นักลงทุนยังจับตาการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลงหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าในการเจรจาสัปดาห์นี้ได้ รวมทั้งวิตกต่อการระบาดของไวรัสโควิด หลังจากที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอังกฤษเพิ่มขึ้น 3,000 รายภายในวันเดียวซึ่งสาธารณสุขระบุว่า สถานการณ์น่าวิตก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 363.75 จุด ลดลง 4.22 จุด , -1.15%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,930.30 จุด ลดลง 7.10 จุด, -0.12%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,973.52 จุด ลดลง 80.20 จุด, -1.59%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,968.33 จุด ลดลง 131.95 จุด, -1.01%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 3.01 ดอลลาร์ หรือ 7.6% ปิดที่ 36.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง ลง 2.23 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 39.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีนี้

อ่านข่าว

น้ำมันดิบร่วงแรง WTI ดิ่งกว่า 7% เบรนท์หลุด 40 เหรียญฯ

ตลาดหุ้นโตเกียว-เอเชียเช้าร่วงกว่า 1%