HoonSmart.com>>ตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จัดโครการ SET Social Impact Gym 2020 เดินหน้าพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม (SE) สู่ความยั่งยืนในปีที่ 4 จัดผู้บริหารบจ.เป็นอาสาถึง 34 คน ร่วมเวิร์กชอปเข้มแบบตัวต่อตัวให้ 13 SE ตลอด 8 สัปดาห์ พร้อมศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดหาแหล่งระดมทุนให้กับ SE คาดมีความชัดเจนในปี 63 หรือ 64
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้สร้างแพลตฟอร์ม “SET Social Impact” เชื่อมโยงภาคธุรกิจที่มีทรัพยากรและประสบการณ์ ทำงานร่วมกับภาคสังคม ที่ต้องการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน เรียนรู้และเกิดการพัฒนาที่สร้างการเปลี่ยนแปลง ขยายผลลัพธ์ที่ดีทางสังคมเป็นทวีคูณ ผ่านบทบาทของผู้ประกอบการทางสังคม (Social Enterprise: SE)
ทั้งนี้การขับเคลื่อนที่สำคัญคือการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้แก่ธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้ดำเนินการพัฒนา SE แล้วกว่า 2,000 ราย ผ่านโครงการเรียนรู้ที่ครบกระบวน โดยมีโครงการ SET Social Impact Gym เป็นหนึ่งในกระบวนการส่งเสริมผู้ประกอบการเพื่อสังคมให้เติบโตได้อย่างเข้มเข็ง
สำหรับในปี 2563 SET Social Impact Gym 2020 ภายใต้แนวคิด “Idea to I Done” เน้นการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจ เพื่อการแก้ไขปัญหาสังคม เพราะนอกจากคาดหวังให้ SE เติบโตอย่างแข็งแกร่งและขยายผลลัพธ์ทางสังคมในวงกว้างแล้ว ทางโครงการยังมีแนวทางให้ SE ที่ร่วมงานกับตลาดหลักทรัพย์ฯ มีส่วนในการเยียวยาวิกฤตทางสังคมและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ด้วย
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ผนึกความร่วมมือกับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และตลาดหลักทรัพย์ฯ รวม 34 คน และผู้บริหารระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมเป็นโค้ชอาสา เพื่อมุ่งสร้างศักยภาพและประสบการณ์การเป็นผู้ประกอบการ ถ่ายทอดความรู้และเทคนิคการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จแก่ธุรกิจเพื่อสังคม โดยผู้บริหารจิตอาสาได้เข้าร่วม Re-skill ทักษะการถ่ายทอด และศึกษานวัตกรรมธุรกิจของแต่ละ SE ที่เข้าร่วมโครงการ
“ธุรกิจเพื่อสังคมที่เข้าร่วมโครงการในปีนี้ ถือว่ามีศักยภาพที่พร้อมต่อยอดธุรกิจและขยายผลลัพธ์ โดยครอบคลุมเป้าหมายทางสังคมทั้งด้านการศึกษา เกษตรกรรม พัฒนาชุมชน ผู้เปราะบาง สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ” นายภากร กล่าว
ด้านน.ส.นพเก้า สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือโครงการ SET Social Impact Gym อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างช่องทางระดมทุน สำหรับผู้ประกอบธุรกิจเพื่อสังคม (SE) ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน จากปัจจุบันยังไม่มีแหล่งระดมทุนที่ชัดเจน ส่วนใหญ่จะใช้เงินส่วนตัว หรือเงินทุนจากภาครัฐในการขับเคลื่อนธุรกิจเพียงเท่านั้น ทั้งนี้คาดผลการศึกษาจะมีความชัดเจนภายในปี 2563 หรือปี 2564
นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล นายกสมาคม บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) กล่าวว่า ผู้บริหารบจ.ทั้งในตลาดหลักทรัพย์และเอ็มเอไอที่เข้าร่วมเป็นอาสาถึง 34 ราย จะร่วมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ พร้อมเป็นที่ปรึกษาแก่ธุรกิจเพื่อสังคม ตลอดระยะเวลา 8 สัปดาห์
ในปีนี้ผู้บริหารจาก maiA ยังได้เข้าร่วมเป็นวิทยากรการอบรมเชิงปฏิบัติการ ในโปรแกรมเตรียมการ SE102 เพื่อสร้างความพร้อมให้กับ SE ก่อนเข้าสู่โปรแกรม Social Impact Gym โดยผู้บริหารทุกคนเห็นว่าการมีส่วนร่วมภายใต้โครงการ Gym นี้ เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนความตั้งใจหรือแนวคิดของผู้บริหารใน maiA ที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และบทบาทของภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นการส่งต่อศักยภาพ สร้างทางลัดในการเติบโตทางธุรกิจเพื่อการขยายผลลัพธ์ทางสังคม ถือเป็นการทำงานร่วมกัน ด้วยหมุดหมายที่จะให้การพัฒนาสังคมไม่เป็นไปอย่างฉาบฉวย แต่ขับเคลื่อนได้อย่างยั่งยืนด้วยองค์กรประเภทธุรกิจเพื่อสังคมที่เข้มแข็ง
“ผู้บริหารทุกคนหวังว่าจะได้เห็นความตั้งใจ โมเดลนวัตกรรมของ SE รุ่นใหม่ และร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลง การแก้ไขปัญหาสังคมอย่างได้ผล เพื่อสร้างผู้ประกอบการเพื่อสังคมรุ่นใหม่ และในทางกลับกันถือเป็นโอกาสให้พวกผมได้เรียนรู้แนวคิดและได้รู้จักกับธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งถือเป็นกระบวนการเรียนรู้จากทั้ง 2 ฝั่ง และอาจนำไปสู่การร่วมทุนหรือต่อยอดระหว่างกันในอนาคต” นายไตรสรณ์กล่าว
โครงการ SET Social Impact Gym 2020 เป็นเวิร์กชอปเข้มข้นพัฒนาศักยภาพ SE แบบตัวต่อตัว ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาศักยภาพ SE แล้ว 46 ราย และสามารถต่อยอดร่วมกับภาคธุรกิจและหน่วยงานเอกชนแล้วกว่า 200 โครงการ ทั้งนี้ SE ที่สนใจพัฒนาศักยภาพ ดูรายละเอียดได้ที่ www.setsocialimpact.com