HoonSmart.com>> “เธียรสุรัตน์” มั่นใจรายได้ปี 63 เติบโตตามเป้า 10% ขยายสาขาครอบคลุมทุกภูมิภาค เพิ่มสินค้าราคาย่อมเยาขยายตลาดลูกค้ากว้างขึ้น ด้านผลงานไตรมาส 2/63 โตสวนโควิด-19 กำไรพุ่ง 135% กวาดยอดขายเพิ่ม คุมต้นทุนค่าใช้จ่ายมีประสิทธิภาพ ปันผลระหว่างกาล 0.085 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 27 ส.ค.นี้ จ่ายเงิน 11 ก.ย.63
นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เธียรสุรัตน์ (TSR) เปิดเผยว่า ปีนี้มั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ระดับ 10% เนื่องจากเตรียมจะเพิ่มจำนวนทีมขายอีก 30 ทีม จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 250 ทีม รวมทั้งจะขยายสาขาเพิ่มอีก 8 แห่ง ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ขณะเดียวกันก็เพิ่มสินค้าใหม่ที่มีราคาย่อมเยา เข้ามาเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค เช่น เครื่องกรองน้ำแบรนด์ SAFE รุ่น RO2 และเครื่องกรองน้ำแบรนด์ SURE รุ่น Bright เพื่อเป็นการขยายตลาดเจาะไปที่ลูกค้าที่ฐานกว้างขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจใหม่ที่ TSR ได้แตกไลน์ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการขาย การให้เช่า และบริการสำหรับระบบเครื่องทำน้ำแข็ง ในนามบริษัท อัลไพน์ วอเตอร์ จำกัด ซึ่งได้ดำเนินการจดทะเบียนเสร็จเรียบร้อย คาดว่าจะช่วยส่งเสริมและสร้างการเติบโตของรายได้ที่มั่นคงแก่บริษัทในอนาคต ปัจจุบันได้เริ่มทำการตลาดแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจาทางการค้าในการจำหน่ายระบบเครื่องทำน้ำแข็งเพื่อผลิตน้ำแข็งที่ถูกสุขอนามัยจากน้ำสะอาดที่ผ่านเครื่องกรองน้ำของบริษัท โดยมีทั้งบริการเปลี่ยนสารกรองและบริการหลังการขายอย่างครบวงจร ให้กับผู้ประกอบการร้านกาแฟแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทย ร้านอาหาร และร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้
นายเอกรัตน์ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 2/2563 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 46.92 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าไตรมาสที่ 1/2563 อยู่ที่ 24.79 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 89.3% แต่หากเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนแล้วเพิ่มขึ้นเท่ากับ 27.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 135.8% เนื่องมาจากรายได้รวม ทั้งจากการขายสินค้า ดอกผลตามสัญญาเช่าซื้อ และลูกหนี้เงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 43.5% และ 22.8% ตามลำดับ รวมกับเปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดรายได้รวมที่ลดลงจาก 37.6% และ 24.5% ลงเหลือ 32.6% และ 21.5% ตามลำดับ
ในขณะที่เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนขายต่อยอดรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 25.7% เป็น 26.6% ส่วนเปอร์เซ็นต์ของหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญต่อยอดรายได้รวมเท่าเดิมคือ 8.8% จึงส่งผลทำให้กำไรต่อหุ้นของกลุ่มบริษัทในไตรมาสนี้เท่ากับ 0.086 บาท เทียบกับผลกำไรต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่เท่ากับ 0.037 บาทที่ถือว่าสูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 132.4%
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดจากงวดผลการดำเนินงาน วันที่ 1 ม.ค. – 30 มิ.ย.2563 ในอัตรา 0.085 บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิ ได้รับปันผล (Record date) 28 ส.ค. 2563 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 27 ส.ค. 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 11 ก.ย. 2563