TEAMG ตั้งราคา 2.42 บาท/หุ้น เปิดขายไอพีโอ 180 ล้านหุ้น 4-6 ก.ค.นี้ เข้าซื้อขายใน SET 12 ก.ค.จุดแข็งบริษัทมีอายุ 40 ปี มูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้มากถึง 3,500 ล้านบาท ปักธงเบอร์ 1 ในอาเซียน
บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่หุ้นละ 2.42 บาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะเปิดขายหุ้นจำนวน 180 ล้านหุ้นในวันที่ 4-6 ก.ค.2561 และนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 12 ก.ค.นี้
ในวันที่ 29 มิ.ย. TEAMG ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น พร้อมผู้ร่วมจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 6 แห่ง โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ( APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ เปิดเผยว่า TEAMG จะไปนำเสนอข้อมูลหรือโรดโชว์ที่สิงคโปร์ในวันที่ 2-3 ก.ค.นี้ หลังจากประสบความสำเร็จในการโรดโชว์ในประเทศ 16 จังหวัด หุ้นจะเข้าซื้อขายใน SET วันที่ 12 ก.ค. นี้โดยใช้เวลาเพียง 99วันนับตั้งแต่ยื่นไฟลิ่งวันที่ 3 เม.ย. 2561
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า TEAMG กำหนดราคาขายหุ้นละ 2.42 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี บริษัทมีจุดแข็งเรื่องประวัติการดำเนินธุรกิจมานานถึง 40 ปี เป็นที่ปรึกษามากกว่า 2,500 โครงการ มีรายได้ค่าที่ปรึกษาและค่าธรรมเนียมปีละ 1,500-1,600 ล้านบาท ปัจจุบันมีงานในมือ (แบ็กล็อก)ประมาณ 3,500 ล้านบาท สามารถรับรู้รายได้อีก 3-5 ปี
“ ไม่ง่าย ที่บริษัทที่ปรึกษาจะสะสมแบ็กล็อกสูงถึง 3,500 ล้านบาทมากกว่าบริษัทรับเหมาก่อสร้างอีกหลายแห่ง โดยใช้คนและระบบเท่านั้นในการสร้างรายได้ แนวโน้มธุรกิจยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก รัฐเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงงานในอีอีซี ซึ่งสร้างรายได้สัดส่วน 40-50% รวมถึงงานเอกชน งานในต่างประเทศ อาทิเขื่อนในลาว ,CLMV และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง “นายสมภพกล่าว
นอกจากนั้น บริษัททีมฯยังตั้งเป้าจะเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน จากปัจจุบันอยู่อันดับสอง เป็นรองสิงคโปร์ ของผู้ให้บริการในการเป็นที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม และสิ่งแวดล้อมแบบบูรณาการ และจัดทำรายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยสามารถให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว (One-stop Service) ให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และรวดเร็ว
สำหรับเงินที่ระดมได้จากการขายไอพีโอมูลค่า 435.6 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 65 ล้านบาทสำหรับการลงทุนด้านซอฟท์แวร์ ไอที ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน