ดาวโจนส์ปิดลบกว่า 100 จุด มาตรการเยียวยาไม่คืบ

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบกว่า 100 จุด มาตรการเยียวยาไม่คืบ จากช่วงแรกหุ้นขึ้นรับข่าวรัสเซียได้อนุญาตให้ใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้นเป็นรายแรกของโลก ด้านนักลงทุนเทขายหุ้นเทคโนโลยี ตลาดหุ้นยุโรปสวนทางปรับตัวขึ้น ด้านราคาน้ำมันลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 11 สิงหาคม 2563 ที่ 27,686.91 จุด ลดลง 104.53 จุด หรือ 0.38% อ่อนตัวลงในช่วงท้ายตลาดจากการเทขายหุ้นเทคโนโลยีที่ยังมีต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจหลังจากการเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อรายใหม่ชะลอตัวลง รวมทั้งไม่มีความคืบหน้าของการเจรจามาตรการเยียวยาระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,333.69 จุด ลดลง 26.78 จุด, -0.80%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,782.82 จุด ลดลง 185.54 จุด, -1.69%

ในช่วงแรกตลาดปรับตัวจากรายงานข่าวว่ารัสเซียได้อนุญาตให้ใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นรายแรกของโลก ทำให้นักลงทุนหันไปซื้อหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลบวกของการเปิดเศรษฐกิจ แต่ผู้เชี่ยวชาญกังวลเพราะวัคซีนไม่ได้รับการทดสอบในคนระยะที่ 3

นักวิเคราะห์ระบุว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดแรงเทขายท้ายตลาด ทั้งการปรับตัวที่ติดต่อกัน 7 วันของดัชนี DJIA และดัชนี S&P 500 ซึ่งทางเทคนิคถือว่า overbought ขณะที่ความสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซันของรัสเซียได้ลดลง แต่ปัจจัยสำคัญคือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่พุ่งขึ้น ดึงความสนใจของนักลงทุนและเพิ่มความระมัดระวัง

นอกจากนี้ยังไม่มีความคืบหน้าของการการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน แม้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตส่งสัญญานว่าพร้อมที่จะเจรจารอบใหม่ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารขยายโครงการช่วยเหลือคนตกงานออกไป

โธมัส บาร์กิน ประธานธนาคารกลางสาขาริชมอนด์ เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารายล่าสุดที่เตือนว่า หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือคนตกงานและธุรกิจรอบใหม่ เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง

นักลงทุนยังสนใจต่อแนวคิดของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ระบุว่า ทำเนียบขาวกำลังพิจารณาที่จะลดภาษี capital-gain tax ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอแนวคิดนี้หลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้นักลงทุนสนใจอย่างจริงจังเพราะมองว่าประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะจัดการด้วยการข้ามความขัดแย้งในสภาคองเกรส

สมาพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติ(National Federation of Independent Business) เผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดเล็กเดือนกรกฎาคมลดลง 1.8 จุดจากเดือนก่อนมาที่ 98.8 และต่ำกว่า 99.9 ที่นักวิเคราะห์คาด

กระทรวงแรงงานเผย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)เดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่า 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาด เมื่อเทียบรายเดือน แต่ปรับตัวลง 0.4% เมื่อเทียบรายปี

หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 3.40%, หุ้นแอปเปิลลดลง 2.97%, หุ้นเฟซบุ๊กลดลง 2.61%, หุ้นแอมะซอนลดลง 2.14% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 1.09%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ชะลอตัวลง และความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของสหรัฐฯ กลบความกังวลต่อความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน

กลุ่มรถยนต์เพิ่มขึ้นกว่า 4.4% จากข้อมูลยอดขายรถยนต์ในจีนเดือนกรกฎาคมที่เพิ่มขึ้น 16.4% เป็น 2.11 ล้านคัน แต่กลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการลดลง 4.5%

ในอังกฤษ การจ้างงานช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนลดลงมากที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ โดยมีจำนวนคนที่ยังมีงานทำ 32.92 ล้านคน แม้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 113,000 คนแต่ต่ำกว่าไตรมาสแรก 220,000 คน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 370.76 จุด เพิ่มขึ้น 6.11 จุด , +1.68%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,154.34 จุด เพิ่มขึ้น 103.75 จุด,+1.71%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,027.99 จุด เพิ่มขึ้น 118.48 จุด, +2.41%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ ที่ 12,946.89 จุด เพิ่มขึ้น 259.36 จุด,+2.04%

หุ้น TUI ธุรกิจท่องเที่ยวในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 10%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 33 เซนต์ปิดที่ 41.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 49 เซนต์ปิดที่ 44.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าว

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้าบวกเล็กน้อย – เอเชียร่วง