HoonSmart.com>> “ซีพีเอฟ (ประเทศไทย)” บริษัทย่อย CPF เคาะอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ 3.15% – 4.15% ต่อปี จ่ายทุก 6 เดือน เตรียมเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน-ผู้ลงทุนรายใหญ่ 17-19 ส.ค.63 ชูอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ A+ ขายผ่าน 6 แบงก์และบล.ภัทร
นายไพศาล จิระกิจเจริญ ประธานผู้บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่าตามที่บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) หรือ CPFTH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ CPF ถือหุ้น 99.99% ได้เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่ และหรือผู้ลงทุนสถาบันนั้น ล่าสุด CPFTH ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่นแล้ว ดังนี้ หุ้นกู้อายุ 4 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยประมาณ 3.15-3.20% ต่อปี อายุ 7 ปีประมาณ 3.35-3.45% ต่อปี อายุ 10 ปีประมาณ 3.45-3.55% ต่อปี อายุ 12 ปีประมาณ 3.70-3.80% ต่อปี และอายุ 15 ปีประมาณ 4.00-4.15% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน โดยอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะกำหนดอีกครั้งในช่วงต้นเดือนสิงหาคม และคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 17-19 ส.ค.2563
ธนาคารผู้จัดจำหน่ายคาดว่าหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่นที่จะออกและเสนอขายน่าจะได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยกิจการที่มีความมั่นคง มีความน่าเชื่อถือ มีโอกาสและมีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารเป็นหนึ่งในนั้น โดย CPFTH เป็นบริษัทที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ CPF และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ A+ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ CPFTH
ทั้งนี้ ทริสเรทติ้ง มองว่าภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยจากผลกระทบของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อบริษัทเพียงเล็กน้อย เนื่องจากสินค้าของบริษัทเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน และทริสเรทติ้งยังมีมุมมองต่อผลประกอบการของบริษัทในปี 2563 ว่าจะได้รับอานิสงส์จากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ลดลงและความต้องการอาหารแช่แข็งที่เพิ่มขึ้น
CPFTH ดำเนินธุรกิจสัตว์บกครบวงจรในประเทศไทย ประกอบด้วยประเภทสัตว์หลัก ได้แก่ สุกร ไก่เนื้อ ไก่ไข่ และเป็ด จำแนกเป็น 3 ธุรกิจหลัก คือ 1. ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) ได้แก่ การผลิตและการจำหน่ายอาหารสัตว์ 2. ธุรกิจเลี้ยงสัตว์ (Farm) ได้แก่ การเพาะพันธุ์สัตว์ การเลี้ยงสัตว์เพื่อการค้า รวมถึงการแปรรูปเนื้อสัตว์ขั้นพื้นฐาน และ 3. ธุรกิจอาหาร (Food) ได้แก่ การผลิตเนื้อสัตว์แปรรูปกึ่งปรุงสุกและปรุงสุก ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปหรือผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานรวมถึงมีกิจการค้าปลีกอาหารและร้านอาหาร ภายใต้แบรนด์ต่างๆ เช่น ซีพีเฟรชมาร์ท, ธุรกิจห้าดาว, สตาร์คอฟฟี่, ซีพี คิทเช่น รวมถึงร้านอาหารบุฟเฟต์ อาหารทะเล นานาชาติ ภายใต้ชื่อ “ซีพี ไห่หลาย ฮาร์เบอร์” เป็นต้น
ไตรมาสแรกของปี 2563 CPFTH มีรายได้จากการขายเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 3.7 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2562 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 13% ในไตรมาสแรกของปี 2563 เมื่อเปรียบเทียบกับ ระดับ 9% ในช่วงเดียวกันของปี 2562