HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดลบ 62 จุด ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง COVID-19 ระบาดรอบสอง กังวลการชะงักงันของธุรกิจ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ที่ 26,671.95 จุด ลดลง 62.76 จุด หรือ 0.23% นักลงทุนผิดหวังข้อมูลผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมทั้งกังวลเกี่ยวกับการชะงักงันของธุรกิจจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมทั้งในสหรัฐฯและยุโรป
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,224.73 จุด เพิ่มขึ้น 9.16 จุด, +0.28%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,503.19 จุด เพิ่มขึ้น 29.36 จุด, -0.28%
มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผย ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนกรกฎาคมลดลงมาที่ระดับ 73.2 จาก78.1 ในเดือนมิถุนายน และต่ำกว่า 78.6 ที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า ดัชนีจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ จากระดับ
นักเศรษฐศาสตร์จาก High Frequency Economics ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นลดลงแสดงให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 และความเชื่อมั่นยังคงไม่ดีขึ้นเพราะยังไม่มีการตอบสนองด้านสาธารณสุขที่สะท้อนว่าควบคุมการระบาดได้ดีขึ้น และป้องกันการปิดธุรกิจได้ ซึ่งจะยิ่งมีผลกระทบต่อตลาดแรงงานมากขึ้นต่อเนื่อง
ในวันศุกร์จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 70,000 รายซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดภายในวันเดียว และมากกว่าประเทศอื่นๆนับตั้งแต่มีการระบาด ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 3.58 ล้านคนหรือ 1 ใน 4 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิต 138,360 ราย
การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อกลบปัจจัยบวกจากการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่มาตรการช่วยเหลือการว่างงานจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ โดยสภาคองเกรสจะเริ่มพิจารณามาตรการช่วยเหลือชุดใหม่ในวันจันทร์นี้ ซึ่งนักลงทุนจับตาวงเงินและรายละเอียดของมาตรการ
นักวิเคราะห์ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่จะมผีลดีต่อตลาด เพราะนักลงทุนรับข่าวนโยบายการเงินไปแล้ว แต่ในสัปดาห์หน้านักลงทุนจะจับตาการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2
ขณะเดียวกันนักลงทุนเกาะติดการประชุมของผู้นำสหภาพยุโรปที่เริ่มขึ้นเมื่อวานนี้เพื่อพิจารณากองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 750 พันล้านยูโร
ทางด้านธนาคารกลาง(เฟด) ประกาศขยายโครงการ Main Street Lending Program ที่ปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการให้ครอบคลุมองค์กรที่แสวงกำไร
กระทรวงพาณิชย์เผย การเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 17.3% มาที่ 1.186 ล้านยูนิต จากระดับ 1.011 ล้านยูนิตในเดือนพฤษภาคม และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.169 ล้านยูนิต ส่วนใบอนุญาตสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 2.1% มาที่ 1.24 ล้านยูนิต
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ลดลง 6.52% หลังกำไร 2 ต่ำกว่าคาด แม้รายได้และจำนวนผู้ใช้บริการสูงกว่าคาด รวมทั้งคาดการณ์แนวโน้มผู้ใช้บริการที่ลดลงในไตรมาสสาม
หุ้นแอมะซอนลดลง 1.26%
หุ้นแบล็คร็อค กองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่มขึ้น 2.7% หลังกำไรไตรมาสสองเพิ่มขึ้น 21% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่านักวิเคราะห์คาด
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากที่ซื้อขายอย่างระมัดระวังในช่วงเปิดตลาด โดยกลุ่มรถยนต์เพิ่มขึ้น 1.5% ส่วนกลุ่มธนาคารลดลง 1% หลังจากตลาดหุ้นเอเชียปิดปลายสัปดาห์มีทั้งบวกและลบ
นักลงทุนจับตาการประชุมของผู้นำสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) 27 ประเทศ ที่เริ่มขึ้นในวันศุกร์ เพื่อหาข้อสรุปการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจขนาด 75 พันล้านยูโร ซึ่งคาดว่าออสเตรีย เดนมาร์ก สวีเดนและเนเธอร์แลนด์จะคัดค้าน และอาจจะถูกวีโตจากฮังการี
การรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสสองเป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อตลาด โดยแดมเลอร์เปิดเผยก่อนรายงานผลประกอบการที่กำหนดออกในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ว่าจะขาดทุนดีกว่าคาดเล็กน้อยที่ 1.68 พันล้านยูโร รวมทั้งประกาศว่าจะปิดโรงงานผลิตรถยนต์นั่งเมอร์เซเดส เบนซ์ในสหรัฐฯและเม็กซิโกเพื่อลดค่าใช้จ่าย หุ้นแดมเลอร์เพิ่มขึ้น 4.3%
หุ้นริโอ ตินโตเพิ่มขึ้น 2.3% จากตัวเลขการขนส่งแร่ไปจีนเพิ่มขึ้น 1.5% หลังจากที่จีนควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้แล้ว
หุ้นอิริคสันเพิ่มขึ้น 11% จากกำไรที่สูงกว่าคาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 372.71 จุด เพิ่มขึ้น 0.58 จุด, +0.16%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,290.30 จุด เพิ่มขึ้น 39.61 จุด, +0.63%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,069.42 จุด ลดลง 15.86 จุด, -0.31%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,919.61 จุด เพิ่มขึ้น 44.64 จุด,+0.35%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 16 เซนต์ปิดที่ 40.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 23 เซนต์ปิดที่ 43.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

