MINT ฟ้องเครือ Marriott ต่อศาลไทย เรียกค่าเสียหาย 570.60 ลบ.

HoonSmart.com>> ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เดินหน้าคดีฟ้องเครือ Marriott ต่อศาลไทย เรียกค่าเสียหาย 570.60 ล้านบาท ข้อหาขายข้อมูลภายใน  ละเมิดอย่างร้ายแรงหลายครั้ง  

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ว่า บริษัท เอ็มไอ สแควร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ MINT จะดำเนินการทางกฎหมายต่อบริษัท แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (Marriott) ในการบริหารงานโรงแรมเจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์สปา (JW Marriott Phuket) ซึ่ง MINT เป็นเจ้าของ และบริหารโดยบริษัทย่อยของ Marriott โดย MINT ได้เรียกร้องค่าเสียหายจาก Marriott เป็นจำนวนเงิน 570,605,134 บาท ข้อหากระทำการไม่สุจริต และละเมิดอย่างร้ายแรงหลายครั้ง

“MINT มีความมั่นใจในความสำเร็จในการดำเนินคดีต่อ Marriott  โดยจะดำเนินการตามกฎหมายในศาลไทย และจะเรียกร้องค่าเสียหายและการเยียวยาอย่างเต็มที่ภายใต้กฎหมายไทย อีกทั้ง MINT อยู่ในระหว่างการพิจารณาแผนการที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับบริษัทย่อยของ Marriott ต่อไป”เว็บไซด์ของ MINT ระบุ

ก่อนหน้านี้ Marriott พยายามหลีกเลี่ยงการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลไทยแม้ว่าโรงแรม JW Marriott Phuket จะตั้งอยู่ในประเทศไทย มีเจ้าของที่เป็นสัญชาติไทย และมีการร้องเรียนตามกฎหมายไทย โดย Marriott ได้ขอให้คณะอนุญาโตตุลาการจากต่างประเทศยับยั้งการฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลไทย แต่ไม่ประสบความสำเร็จและได้รับการตัดสินจากอนุญาโตฯ เมื่อต้นเดือน ก.ค.63 ให้ดำเนินคดีในศาลไทย

MINT ระบุว่า Marriott ได้ทำการแข่งขันกับ JW Marriott Phuket ผ่านโรงแรมคู่แข่งอื่นๆ ภายใต้กลุ่มโรงแรม Marriott รวมทั้งใช้สินทรัพย์ของ JW Marriott Phuket เพื่อโฆษณาโรงแรมอื่นๆ ภายใต้เครือ Marriott ที่เป็นคู่แข่งกัน รวมทั้งนำข้อมูลที่ MINT เป็นเจ้าของและที่เป็นความลับไปใช้ส่งเสริมการขายโรงแรมอื่นๆ ในเครือ Marriott

นอกจากนั้นยังละเมิดในประเด็นอื่นๆ ได้แก่ บังคับให้ JW Marriott Phuket รับกลุ่มลูกค้าที่มีความสามารถในการทำกำไรต่ำจำนวนมาก,ไม่สามารถบริหาร JW Marriott Phuket ที่จะปกป้องและเป็นประโยชน์กับเจ้าของโรงแรมได้อย่างเหมาะสม จัดซื้อที่ไม่มีประสิทธิภาพ และ เพิ่มมูลค่าให้กับตนเองอย่างไม่เหมาะสม เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ Marriott ยังถูกดำเนินคดีทางกฎหมายทียื่นฟ้องโดยอัยการสูงสุดของรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา กรณีการตั้งราคาเข้าข่าย เป็นการหลอกลวงและทำให้เข้าใจผิด และการละเมิดข้อมูลเป็นครั้งที่สองภายในสามปีที่ผ่านมา  และยังถูกดำเนินคดีกฎหมายในด้านอื่นๆจากเจ้าของโรงแรมอีกหลายแห่ง

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) เปิดเผยในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก (IPO)  ระบุว่า ณ วันที่ 30 มิ.ย. 62 บริษัทฯ เป็นเจ้าของโรงแรมระดับ Midscale ขึ้นไปรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เมื่อพิจารณาจากจำนวนห้องพัก โดยบริษัทเป็นเจ้าของโรงแรมที่เกิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 10 แห่งมีห้องพักรวมทั้งสิ้น 3,432 ห้อง โดยโรงแรมของบริษัทฯบริหารงานโดยผู้บริหารโรงแรมชั้นนำระดับสากล เช่น แมริออท อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น บันยันทรี และฮิลตัน เป็นต้น

นอกจากนี้บริษัทยังเป็นเจ้าของโรงแรมที่อยู่ภายใต้การบริหารงานโดย Marriott International Inc. รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย