‘ชาติศิริ’ไม่รับปาก จ่ายปันผลปี’63 คาด BBL กำไรหด “สำรอง-หนี้เสียเพิ่ม” 2 ปี

HoonSmart.com>>”ชาติศิริ’ ยอมรับเศรษฐกิจปีนี้เสี่ยงติดลบ 10% คาดแย่ถึงปีหน้า เกิดหนี้เสียมาก เร่งตั้งสำรองเพิ่ม ฉุดผลดำเนินงานวูบ เดือนมิ.ย. เริ่มรับรู้รายได้จากการซื้อหุ้นเพอร์มาตาแบงก์อินโดฯ กว่า 89% แต่ยังน้อยมาก ส่วนการจ่ายปันผลปี 63 ขอรอดูสถานการณ์และนโยบาย ธปท.ก่อน ปลอบผู้ถือหุ้น เงินที่ยังไม่ได้รับตอนนี้ เก็บเข้าทรัพย์สิน สะท้อนในราคาหุ้นจะรับรู้ในวันข้างหน้า สั่งทุกสาขาช่วยลูกหนี้ทันที เป็นเพื่อนคู่คิด ให้ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในปีนี้มีโอกาสติดลบระดับ 10% และคาดว่าจะต้องใช้เวลาไปจนถึงปีหน้า ซึ่งจะส่งผลต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPLs) เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 64 หากเทียบกับปี 62 NPLs อยู่ที่ 7.9 หมื่นล้านบาท หรือ 3.4% ของสินเชื่อรวม มาอยู่ที่ ระดับ 8.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 3.48-3.50% ในไตรมาส 1/63ที่ผ่านมา ดังนั้นผลประกอบการของธนาคารก็จะลดลงในลักษณะเดียวกัน เพราะจะต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นและในไตรมาส 2 จะเห็นธนาคารยังมีการตั้งสำรองเพิ่มตามมาตรฐานบัญชีใหม่

ส่วนการจ่ายเงินปันผลทั้งปีนี้มีโอกาสจ่ายหรือไม่ ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตอบ จะต้องรอดูนโยบายและสถานการณ์ตอนนั้นก่อน หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ธนาคารพาณิชย์งดการจ่ายปันผลระหว่างกาล ซึ่งเป็นสิ่งที่เหมาะสม และเป็นนโยบายที่สุขุมรอบคอบ สอดคล้องกับแนวโน้มของโลก ส่วนผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้รับเงินปันผล ก็จะสะสมเข้าไปในทรัพย์สิน และในราคาของหุ้น จะรับรู้ในวันข้างหน้า

“เรื่องเงินปันผล ผลการดำเนินงานของแบงก์ จะเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจ หากเป็นไปได้ พยายามจ่ายในอัตรา 1 ใน3 หรือคิดเป็นประมาณ 30-40%ของกำไรสุทธิเหมือนที่ผ่านมา  เช่นจากกำไรปี 62 จ่ายระหว่างกาล 2 บาท และจ่ายอีก 5 บาท รวม 7 บาท/หุ้น  คิดเป็นประมาณ 38.4% ของกำไร ส่วนปีนี้ ยังเร็วเกินไปที่จะให้คำตอบ และมาตรการของทางการก็จะให้ระมัดระวังการจ่าย ให้แบงก์ดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้มีเงินกองทุนเพียงพอผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ยาว และแก้ไม่ง่าย เป็นไปทั้งโลก ทุกธุรกิจ แต่เมืองไทยไม่ได้แย่ เรายังแข็งแรง หวังว่าจะมีภูมิคุ้มกันได้ เชื่อว่า จะสามารถบริหารจัดการสถานการณ์นี้ได้ “นายชาติศิริกล่าว

สำหรับลูกค้าของธนาคาร ได้สั่งให้ทุกสาขาดูแลใกล้ชิด และให้ความช่วยเหลือทันที เป็นเพื่อนคู่คิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารต้องดำเนินการต่อเนื่องไปถึงครึ่งแรกของปี  64 และในระยะต่อไปหากต้องการเงินลงทุน เพื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจให้แข่งขันได้ ก็ยินดี  ขณะเดียวกันธนาคารมีการลงทุนและปรับโครงสร้างระบบเทคโนโลยี เพื่อให้สอดรับกับยุคดิจิทัล เพิ่มประสิทธิผลให้กับลูกค้าและให้ลูกค้าได้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต โดยปีนี้คาดใช้งบลงทุนด้านเทคโนโลยีประมาณ  4,000-6,000 ล้านบาท

นายชาติศิริกล่าวถึงการซื้อกิจการธนาคารพีที เพอร์มาตา ประเทศอินโดนีเซียว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.63ที่ผ่านมา ได้ชำระเงินซื้อหุ้นเพอร์มาตาเรียบร้อยแล้วกว่า 89% ส่วนหุ้นที่เหลืออยู่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์  จึงเริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนได้ตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ถือว่าเป็นเพียงส่วนน้อยมาก

นอกจากนี้เศรษฐกิจของอินโดนีเซียในปีนี้คาดว่าจะโต 0-1% จึงส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ของธนาคารในระดับหนึ่ง แต่อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ จากผลประกอบการในช่วง 3 เดือนแรกยังใช้ได้ ซึ่งแบงก์ได้มีการสำรองหนี้ที่มีปัญหาเพิ่มขึ้นด้วย เพื่อรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า

สำหรับบริษัทการบินไทย ยอมรับว่า เป็นลูกค้าของธนาคาร  ขณะนี้มีการติดตามแผนฟื้นฟูต่างๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารได้มีการตั้งสำรองตามเกณฑ์ธปท.ไว้เรียบร้อยแล้ว