บล.โกลเบล็ก แนะเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายทำ Window dressing

บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยถูกปัจจัยต่างประเทศกดดัน “สงครามการค้า และการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในรอบต่อไป” ยังกดดันตลาดให้กรอบดัชนี 1,670-1,705 จุด แนะลงทุนหุ้นมีปัจจัยบวกรองรับ เก็งกำไรหุ้นเป้าหมายทำ Window dressing

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ ได้รับผลบวกจากเศรษฐกิจโลกในครึ่งปีหลังนี้ยังคงเติบโตดี เป็นภาพของการฟื้นตัว โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีการเติบโตได้ค่อนข้างดี รวมถึงคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เล็งปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ GDP และการเติบโตของการส่งออกในปีนี้ตามแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกซึ่งมีแนวโน้มดี และน่าจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนภาคท่องเที่ยวยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทย โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 61 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.6 ล้านคน ขยายตัว 12.62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

วิลาสินี บุญมาสูงทรง

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยกดดันจากสงครามการค้ามีแนวโน้มยืดเยื้อหลังสหรัฐฯประกาศรายการสินค้านำเข้าจากจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% เพื่อตอบโต้ที่จีนละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ ขณะที่จีนก็ตอบโต้ด้วยการประกาศบัญชีรายการสินค้าสหรัฐที่ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าเช่นกัน

รวมถึงทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินมีแนวโน้มทยอยความเข้มงวดมากขึ้นจากที่เคยใช้นโยบายผ่อนคลายในช่วงก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งในปีนี้ ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณเลิกมาตรการ QE ในปลายปีนี้ ประกอบกับราคาน้ำมันชะลอตัวจากความกังวลเกี่ยวกับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ค่าเงินบาทอ่อนค่า และ fund flow ไหลออกต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 หมื่นล้านบาท ยังคงกดดันต่อภาวะตลาดหุ้นไทย

ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตาในวันที่ 20 มิ.ย. กำหนดประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 4/2561 เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่ากนง.น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม และในวันเดียวกันนี้มีกำหนดประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) เพื่อพิจารณาว่าจะเลื่อนการใช้มาตรฐานบัญชี IFRS 9 ออกไปจากเดิมในปี 62 หรือไม่ และธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุมที่ได้ประชุมระหว่าง 14 – 15 มิ.ย. ซึ่งได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิมและการใช้นโยบายการเงินเชิงรุก รวมถึงในวันที่ 22 มิ.ย. มีกำหนดประชุมกลุ่มโอเปกเกี่ยวกับกำลังการผลิตน้ำมัน และสหรัฐฯ อียู จีน กำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มชะลอตัว คาดดัชนี SET ผันผวนในกรอบ 1,670-1,705 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ HANA เลือกเป็น Top pick ของกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า เนื่องจากมี Div. Yield มากสุดราว 5.7% และมี Forward PER ใกล้ระดับต่ำสุดของกลุ่มที่ 12 เท่า และมีความเสี่ยงด้านต้นทุนวัตถุดิบต่ำสุดในภาวะราคาต้นทุนวัตถุดิบปรับขึ้นไปกว่า 20% ในปี 60

นอกจากนี้ยังแนะนำหุ้นที่มีโอกาสเป็นเป้าหมายในการทำ Window dressing ได้แก่ CPALL, ADVANC, CPN, EA, GPSC และ TVO รวมถึง GGC และ EA ได้อานิสงส์จากในเดือนก.ค.รัฐปรับเพิ่มสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซลจากสูตร B7 เป็น B20