หุ้นบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ผ่านช่วงโปรโมชั่นไปแล้ว ราคาหุ้นลงลึกถึง 7.90 บาท ตอนนี้ดีดกลับขึ้นมาเร็วและแรงกว่าตลาดมาก เมื่อความเชื่อมั่นเริ่มกลับคืนมา แต่ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะมองหาจังหวะในการทยอยสะสม เพื่อลงทุนระยะยาว เพราะความโดดเด่นเรื่อง” เติบโตสูง ปันผลงาม”
หุ้นบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ติดอันดับต้นๆ ในการให้ผลตอบแทนคืนแก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนได้รวดเร็วทันใจ
หุ้นวิ่งขึ้นมาเหนือ 10.30 บาท ดีดขึ้นมาประมาณ 30% จากจุดต่ำสุด จากความกลัว “ไวรัสโควิด-19” เริ่มคลี่คลายลง ธนาคารกลางทั่วโลกจับจับมือกันอัดฉีดเงินเข้าพยุงเศรษฐกิจ แต่ราคาก็ยังมีระยะห่างอีกพอสมควรกับจุดสูงสุดที่ 14.40 บาท มองว่ายังมีโอกาสไปถึง โดยมีเงินปันผลพิเศษหุ้นละ 0.15 บาท ติดไม้ติดมือมาด้วย
“สุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ” ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน BTS กล่าวว่า ธุรกิจของบีทีเอสฯได้รับผลกระทบระยะสั้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลก และมาตรการ “ล็อกดาวน์”ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ แต่ปัจจัยพื้นฐานไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สภาพคล่องไม่มีปัญหา ตอนมีเยอะหลักหมื่นล้านบาท และยังไม่ได้ใช้วงเงินที่มีไว้กับธนาคาร บอร์ดมีนโยบายออกบี/อี เท่าไร ต้องมีแบงก์มาแบ็กอัพทุกครั้ง
“รายย่อยตกใจขายก่อน แต่คนไม่ได้ขาย รออีกสักพักหุ้นก็จะกลับขึ้นมา เช่นเดียวกับหุ้นในพอร์ตของบีทีเอส เราเลือกหุ้นที่มีความมั่นคง และต่อยอดธุรกิจได้ หุ้นเหล่านี้เป็นเงินลงทุน ราคาที่ลดลง เราได้รับผลกระทบบ้างจากการที่ต้องมาร์คทูมาร์เก็ต ราคาหุ้น ณ วันสิ้นงวดบัญชีคือ 31 มี.ค. ลงมาจากวันสิ้นงวดก่อนหน้านี้ ”
บีทีเอสได้รับผลกระทบระยะสั้นจากธุรกิจ 4 ประเภท
บริษัทมีรายได้หลักจากธุรกิจระบบขนส่งมวลชน สัดส่วนกว่า 80% จากการถือ BTSGIF หรือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท 33.33% รายได้เงินปันผลลดลง แต่ไม่ได้ขาดทุนจากมาร์คทูมาร์เก็ต
BTSGIF มีรายได้จากการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลัก ที่เป็นสายแรกเริ่ม 23.5 กิโลเมตร แม้ว่าปีนี้จำนวนผู้โดยสารลดลง เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง ผู้โดยสารก็จะกลับมาดีขึ้น และยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือเต็มรูปแบบ (สถานีห้าแยกลาดพร้าว ถึงสถานีคูคต) รวมถึงเส้นทางในอนาคตที่จะเพิ่มขึ้นด้วย
” BTSGIF ยังมีอายุสัมปทานจนถึงวันที่ 4 ธ.ค. 2572 หรืออีกประมาณ 10 ปี สมมุติว่าปีนี้ไม่มีรายได้เลย ก็คิดเป็นประมาณ 10%เท่านั้น ราคาไม่ควรลงไปแตะ 7 บาท จากพาร์ 10.081 บาทต่อหน่วย และ BTS ก็ไม่ควรลงไปถึง 7 บาท ก่อนหน้านี้ ”
BTS ยังมีสัญญาเดินรถอยู่ สายสีชมพูแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรงยังก่อสร้าง สายเขียวเหนือจะเริ่มเปิดวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน มิ.ย. สิ้นปีนี้ถึงคูคตตามแผน
ส่วนธุรกิจมีเดีย อาจจะเป็นกลุ่มที่มีความผันผวนหน่อย ธุรกิจไม่ซื้อโฆษณา คาดว่าปีนี้ ซึมๆ ปีหน้าเริ่มต้นใหม่ ทั้งนี้บริษัทถือหุ้นในบริษัท วีจีไอ(VGI) ลงทุนผ่านไปยังธุรกิจโฆษณาและอื่นๆอีกหลายแห่ง
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม บริษัทลงทุนในบริษัท ยู ซิตี้(U) ที่มีโรงแรมในยุโรปหลายแห่ง เหนื่อยหน่อย คาดสถานการณ์จะค่อยๆกลับมาปลายปี เช่นเดียวกับธุรกิจบริการ
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มีการปรับลดประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายหุ้น BTS เช่น บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ลดราคาเป้าหมาย BTS จาก 14 บาทเหลือเพียง 10.52 บาท นับว่าต่ำที่สุดในกลุ่มนักวิเคราะห์รวม 9 ราย เฉลี่ย 12.76 บาท โดยบล.กรุงศรี ให้ราคาสูงสุด 15.40 บาท
บล.ดีบีเอสฯระบุว่า ราคาหุ้นตอบรับโควิดไปพอสมควรแล้ว คาดกำไรหลักปี 2563-2564 (ม.ค.63) ยังออกไม่ดี จากปี 2563 คาดกำไรหุ้นละ 0.62 บาท เติบโต 158.3% ปี 2564 ประมาณการกำไรต่อหุ้นเหลือ 0.28 บาท รูดลง 54.8% ข่าวลบมีผู้โดยสารจำนวนน้อย กระทบจำกัด แต่ปรับกำไรลงในส่วนโฆษณาและตามส่วนได้เสียของการลงทุนในแต่ละธุรกิจ
ทั้งนี้กำไรของ BTS จะทรุดลงแรงเพียงใด ตัวแปรสำคัญอยู่ที่สถานการณ์โควิด แต่อย่างน้อยนักวิเคราะห์ให้อัตราผลตอบแทนปันผลเฉลี่ย 3-5% น่าจะช่วยประคับประคองราคาหุ้นไม่ให้ดิ่งลงเหวลึกไปไกลกว่านี้มากนัก