HoonSmart.com>> บล.ภัทร ปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยปี 63 ลงพรวดเดียว จากเติบโต 1.4% พลิก -0.4% หลังไวรัสโควิด-19 ระบาด กระทบท่องเที่ยว ส่งออก คาดกนง.ลดดอกเบี้ยเพียง 0.25% ได้ราคาน้ำมันลงช่วยเศรษฐกิจ
บริษัทหลักทรัพย์ภัทร ได้ปรับลดการคาดการณ์จีดีพีในปี 2563 จากเติบโต 1.4% เป็น ติดลบ 0.4% หลังจากการระบาดของไวรัสโคววิด-19 ได้เปลี่ยนจากการระบาดในระดับภูมิภาคเป็นเหมือนการตื่นตระหนกทั่วโลก ภายใต้กรณีฐาน ความพยายามกักกันและมาตรการกักกันจะจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเศรษฐกิจหลัก ๆ ในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ปี 2563 ผลกระทบจะรุนแรงอย่างยิ่งต่อประเทศไทย เนื่องจากเศรษฐกิจเผชิญกับการค้าและการท่องเที่ยวจากภายนอกอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ จากสมมติฐานหลักสำหรับการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจ คือ การท่องเที่ยวคิดเป็น 12% ของจีดีพี ในปี 2562 บล.ภัทรคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเข้ามาลดลง 50% ในไตรมาส 1-2 ก่อนที่จะฟื้นตัวช้าในครึ่งปีหลัง สำหรับในปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลง 25% ส่งผลกระทบต่อภาพรวมที่ใหญ่กว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ลดลงอาจส่งผลบวกเชิงบวกต่อการเติบโตในปีนี้
บล.ภัทร ระบุว่า การถดถอยทางเทคนิค คือเศรษฐกิจหดตัวติดต่อกันสองไตรมาส ขณะนี้ในกรณีฐานคาดว่าการฟื้นตัวในระดับ U-Shape ในระดับปานกลางและสำหรับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจจะค่อยๆเริ่มกลับมาเป็นปกติในครึ่งปีหลัง
สำหรับมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม บล.ภัทร เห็นแรงกดดันเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เป็น 0.75% ที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์หลังจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ( FOMC) ด้วยจุดยืนที่รอบคอบของกนง. บล.ภัทร ไม่คาดว่าจะมีการปรับลดลงอีก แต่จะไม่แปลกใจหากเกิดขึ้น เป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาสภาพคล่องกลายเป็นวิกฤติการล้มละลายเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้บล.ภัทรยังมองหามาตรการผ่อนคลายทางการคลัง เพื่อบรรเทาและกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในระดับปานกลาง เติบโตลดลงเหลือ 1.4% จีดีพีของไทยอาจลดลง 2% ในปี 2563 คาดว่าผลกระทบเพิ่มเติมจากการท่องเที่ยว การส่งออก ผลกระทบต่อภาคอื่น ๆ และความเชื่อมั่นในประเทศ