HoonSmart.com>> เอเซีย แคปปิตอล (ACAP) แจงแนวทางชำระหนี้หุ้นกู้ รุ่น ACAP202A มูลค่า 395.3 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยตามกำหนด และ ทยอยคืนเงินต้น มั่นใจไตรมาส 1 / 63 รีดหนี้เงินกู้ยืมจากลูกหนี้ได้ 232 ล้านบาท “สุกัญญา” เผย ยอดหุ้นกู้คงค้าง 6 รุ่น มูลค่า 2,180 ล้านบาท ใช้แนวทางเดียวกันคือ ชำระดอกเบี้ยต่อเนื่อง และทยอยคืนเงินต้น จากแหล่งเงินทุน ชำระคืนของลูกหนี้เงินกู้ยืมและการขายทรัพย์สินของบริษัทฯ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,078 ล้านบาท
นางสาวสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเซีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) เปิดเผยแนวทางชำระ หนี้หุ้นกู้ รุ่น ACAP202A มูลค่า 395.3 ล้านบาท ดังนี้
1 ) บริษัทฯ ยังคงชำระดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทุกคนต่อไป เมื่อครบรอบกำหนดชำระดอกเบี้ย และ 2) บริษัทฯ มีแผนการทยอยชำระคืนเงินต้น โดยมีแหล่งทุนมาจากการรับชำระคืน จากลูกหนี้เงินกู้ยืมจำนวน 232 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับชำระภายในไตรมาส 1 ของปี 2563
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีหุ้นกู้คงค้าง อีกจำนวน 6 รุ่น มูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,180 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีแผนชำระคืนหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ตามแนวทางข้างต้น กล่าวคือ ชำระดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และทยอยชำระคืนเงินต้น
เนื่องจากบริษัทฯ มีแหล่งทุนในการชำระคืนหนี้หุ้นกู้ จากการรับชำระคืนของลูกหนี้เงินกู้ยืมและการขายทรัพย์สินของบริษัทฯ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,078 ล้านบาท
จากสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบ ส่งผลให้ไม่สามารถคาดการณ์ช่วงเวลาของกระแสเงินสดรับจากแหล่งทุนดังกล่าวได้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินศักยภาพของทรัพย์สิน 1 รายการ (มูลค่า 320 ล้านบาท) และการเจรจากับลูกหนี้จำนวน 3 ราย (มูลค่า 1,009 ล้านบาท) มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,329 ล้านบาท มีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทฯ จะได้รับชำระคืน ภายในปี 2563 และจะทำให้บริษัทฯ สามารถนำไปชำระหนี้เงินต้นของหุ้นกู้ได้บางส่วน ส่วนภาระหนี้เงินต้นคงค้างที่เหลือ คาดว่าจะชำระเสร็จสิ้นภายในปี 2564
บริษัทฯ พยายามอย่างถึงที่สุดในการบริหารสภาพคล่อง เพื่อนำกระแสเงินสดมาชำระหนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายลำดับแรกของแผนการดำเนินธุรกิจ ณ ขณะนี้ บริษัท ฯ ยังมุ่งมั่นที่จะชำระหนี้หุ้นกู้ให้ครบถ้วน และจะรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์ในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้หุ้นกู้ รุ่น ACAP202A จำนวน 395.3 ล้านบาท ได้ขอขยายระยะเวลาวันครบกำหนดไถ่ถอน ออกไปอีก 366 วัน นับจากวันที่ 7 ก.พ. 2563 เป็นวันที่ 7 ก.พ. 2564 กำหนดให้จ่ายดอกเบี้ยใหม่ จากเดิม 6 % ต่อปี เป็น 7.50 %