HoonSmart.com>>จันทมิฬ พิษโควิด-19 คุมไม่อยู่ ลามทั่วโลก ทุบหุ้นไทยดิ่งต่ำสุดในรอบ 3 ปี 4 เดือน และต่ำสุดในเอเชีย 3.98 % กองทุนกระหน่ำขายหุ้น 4,229 ล้านบาท Block Trade ซ้ำ ชิงขายก่อนโบรกเกอร์ปรับลดประมาณการ คาดผลกระทบลากยาวไตรมาส 2 – 3 สธ. ประกาศเป็นโรคติดต่อร้ายแรง อันดับ 14 ด้าน “ภากร” ปลอบนักลงทุนต่างชาติไม่ไปไหน ใช้วิกฤตเป็นโอกาส กระจายการลงทุน “ภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ” แนะเลือกหุ้นปันผล โรงพยาบาล-ท่องเที่ยวรอสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ

ตลาดหุ้นไทย เปิดตลาดวันจันทร์ที่ 24 ก.พ. ร่วงทันที 20 จุด จากแรงขายหุ้นทั่วกระดาน ฉุดหุ้นไทยร่วงแรงต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ตามตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ปรับตัวลง จากผลกระทบ โควิด-19 และปิดต่ำสุดของวันและต่ำสุดในรอบ 3 ปี 4 เดือน ที่ระดับ 1,435.56 จุด ลดลง 59.53 จุด หรือ 3.89 % มูลค่าซื้อขาย 76,431.30 ล้านบาท
ต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 1,673 ล้านบาท ส่วนกองทุนขายหนัก 4,229 ล้านบาท พอร์ตเทรดโบรกเกอร์ ขาย 862 ล้านบาท ส่วนรายย่อยชาวสวนซื้อ 6,764 ล้านบาท
ตลาดหุ้นเกาหลี ปิด 2,079.04 จุด ร่วง 83.80 จุด หรือ 3.87 % , ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิด 11,534.87 จุด ลดลง 151.48 จุด หรือ 1.30 % , ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิด 3,142.20 จุด ลดลง 38.83 จุด หรือ 1.22 %
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลงหนัก กว่า 2% (ระหว่างให้สัมภาษณ์ ) ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ติดเชื้อก็เริ่มลดลง คาดว่าความมั่นใจนักลงทุนจะกลับมาในไม่ช้า เชื่อว่าต่างชาติ ไม่หายไปไหน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อเหตุการณ์ปกติ ต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุน
ดร.ภากร แนะนำว่า นักลงทุนควรมองวิกฤต ให้เป็นประโยชน์ กระจายความเสี่ยงในการลงทุนให้หลากหลาย เช่น ลงทุนหุ้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคระบาด และหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง มีรายได้คงที่
สำหรับไตรมาส 1/63 ตลาดหุ้นผันผวนอย่างต่อเนื่อง จากหลายปัจจัยเข้ามากดดัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แนะนำนักลงทุนติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
ผู้จัดการตลาด กล่าวถึง มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ ยังไม่มีความจำเป็นที่จะใช้ แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่งและใช้เวลาฟื้นตัวเร็ว รวมถึงมีหุ้น IPO ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทย
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ ได้วางแผนสำรองรองรับในสภาวะฉุกเฉิน (Business Continuity Planning หรือ BCP) รวมทั้งปรับปรุงระบบ E-Voting ในภาวะเสี่ยง ให้ลงมติผ่านระบบ E – voting ซึ่งตอนนี้ติดอยู่ที่กฤษฎีกา
อย่างไรก็ตาม บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ไม่สามารถส่งงบการเงินได้ตามกำหนด สามารถแจ้งผ่อนผันต่อก.ล.ต. ได้ ซึ่งตลาดพร้อมดำเนินการผ่อนผันให้ทันที
นาง ภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นลงรอบนี้ เป็นโอกาสเลือกซื้อหุ้นสำหรับการลงทุน หลังจากที่ดัชนียืนเหนือระดับ 1,500 จุด มานาน 3 ปี ครั้งนี้ เป็นการเริ่มต้นใหม่
แนะนำเลือกซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และหุ้นปันผล และหุ้นเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โรงพยาบาล เชื่อว่า ราคาหุ้นจะกลับมาภายหลังจากสถานการณ์ไวรัสระบาดคลี่คลายลง
“หุ้นไทยพื้นฐานไม่ได้แย่ขนาดนี้ สัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) ไม่ได้สูง ธุรกิจสามารถไปต่อได้ สถานการณ์ตอนนี้เกิดขึ้นทั่วโลก และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระยะสั้นเท่านั้น “นาง ภัทธีรา
นักลงทุนสถาบัน กล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับตัวลงเกือบ 60 จุด ซึ่งผลกระทบโควิด-19 อย่างเดียวไม่เพียงพอ มองว่า จะมีการปรับประมาณการกำไรบจ. ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ลงอีกในไตรมาส 2 หรืออาจลากยาวไปไตรมาส 3 และ 4 ซึ่งการปรับประมาณการใหม่ จะทำให้ไตรมาส 2 แย่ลงอีก จากไตรมาส 1 ที่ยังได้รับผลกระทบไม่มากนัก

