RATCH ปิดดีลโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตัน อินโดฯ มูลค่า 590.67 ล้านเหรียญฯ

HoonSmart.com>> “ราช กรุ๊ป” ปิดดีลซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตัน อินโดนีเซีย กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,045 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุนประมาณ 590.67 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

บริษัท ราช กรุ๊ป (RATCH) ประกาศผลสำเร็จการลงทุนซื้อหุ้นกิจการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตัน กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,045 เมกะวัตต์ ในอินโดนีเซีย และกิจการเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า จากกลุ่มบริษัท Mitsui & Co., Ltd. การลงทุนดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนี้ บริษัทฯ โดยบริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RHIS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่ถือหุ้นทั้งหมด จะถือหุ้น 36.26% ในบริษัท PT Paiton Energy และ บริษัท Minejesa Capital B.V พร้อมทั้งถือหุ้น 65% ในบริษัท IPM Asia Pte. Ltd. ซึ่งดำเนินธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า ธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณ 590.67 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป (RATCH)เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตัน ในอินโดนีเซีย ได้สำเร็จโดยสมบูรณ์แล้ว และเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะสร้างฐานธุรกิจที่มั่นคงและระยะยาวในอินโดนีเซีย อีกทั้งยังช่วยสร้างพันธมิตรรายใหม่ที่จะเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจในธุรกิจไฟฟ้าและเกี่ยวเนื่องของบริษัทฯ ในอนาคตด้วย หลังจากนี้กำลังการผลิตที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 9,038.04 เมกะวัตต์ เสริมด้วยธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น

“บริษัทฯ พร้อมสนับสนุนภารกิจและเป้าหมายของบริษัท PT Paiton Energy ทั้งด้านการผลิตไฟฟ้าเพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคม และการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เรายังจะแสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาธุรกิจอื่นๆ ซึ่งรวมถึงพลังงานทดแทนร่วมกันในอนาคต ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการลงทุนโรงไฟฟ้าในอินโดนีเซีย รวม 4 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าถ่านหิน และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่ง กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 1,009.72 เมกะวัตต์ บริษัทฯ ยังคงมีอินโดนีเซียเป็นเป้าหมายการลงทุนด้วยเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายนิทัศน์ กล่าว