กองทรัสต์ AIMIRT คาดแปลงสภาพ “PPF” จบมิ.ย.นี้ หลังก.ล.ต.ไฟเขียวไฟลิ่ง

HoonSmart.com>> กองทรัสต์ “AIMIRT” เดินหน้าเตรียมพร้อมปิดดีลแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ “PPF” มิ.ย. นี้ตามแผน หลัง ก.ล.ต. ประกาศให้ไฟลิ่งมีผลใช้บังคับ มั่นใจการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ “PPF” เข้ารวมกับกองทรัสต์ “AIMIRT” ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง หนุนรายได้เติบโตมั่นคง ตอกย้ำตำแหน่งรีทอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ

นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท (AIMIRT) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รายงานความคืบหน้าต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเรื่องการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) เข้ารวมกับกองทรัสต์ AIMIRT โดยแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์และร่างหนังสือชี้ชวนที่ทางบริษัทได้ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2566 ได้มีผลบังคับใช้เป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2567 ที่ผ่านมา

บริษัทฯ กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อเดินหน้าดำเนินการตามขั้นตอนแปลงสภาพโดยการออกหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ AIMIRT พร้อมเงินสดให้แก่กองทุนรวมอสังหาฯ PPF เพื่อแลกเปลี่ยนกับทรัพย์สินของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ซึ่งการขยายฐานผู้ถือหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ AIMIRT จากการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF เป็นหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ AIMIRT โดยไม่ต้องระดมทุนจากผู้ถือหน่วยทรัสต์ปัจจุบันของกองทรัสต์ AIMIRT จะช่วยทำให้หน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ AIMIRT มีเสถียรภาพและสภาพคล่องเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าการรับโอนทรัพย์สินจากกองทุนรวมอสังหาฯ PPF จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.นี้

การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ผ่านการแปลงสภาพในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่บริษัทฯ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ได้เล็งเห็นโอกาสในการเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพ อีกทั้งมีปัจจัยสนับสนุนในเรื่องของสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากมาตรการยกเว้นภาษีและการปรับลดค่าธรรมเนียมจากการแปลงสภาพ จึงทำให้เกิดการทำงานร่วมกันกับพันธมิตรที่ดีอย่างบริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PIN) อีกครั้งหนึ่ง และเกิดเป็นนวัตกรรมการลงทุนครั้งแรกในประเทศไทยที่จะมีการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ เข้ารวมกับกองทรัสต์อิสระ ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำของกองทรัสต์ AIMIRT ในฐานะรีทอิสระรายแรกและรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

นายธนาเดช โอภาสยานนท์ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ผู้จัดการกองทรัสต์ได้เตรียมออกหน่วยทรัสต์ใหม่พร้อมเงินสดให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาฯ ‘PPF’ โดยมีอัตราการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนกับหน่วยทรัสต์ (Swap Ratio) ที่ 1 หน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ต่อ 0.8731 หน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ AIMIRT พร้อมเงินสดจํานวน 0.7500 บาทต่อ 1 หน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF โดยการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์ AIMIRT มีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพสูงขึ้นในหลากหลายด้าน ทั้งในเรื่องการกระจายตัวของพอร์ตทรัพย์สิน โดยเฉพาะในแง่ของทำเลที่ตั้งที่จะมีการกระจายตัวไปในจุดยุทธศาสตร์ EEC มากขึ้น และสัดส่วนทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ (Freehold) ที่จะเพิ่มสูงขึ้นมากยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ PPF เป็นการลงทุนในทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ (Freehold) ทั้งหมด ถือเป็นโอกาสในการขยายพอร์ตที่มีคุณภาพและช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ปัจจุบันกองทรัสต์ AIMIRT มีขนาดทรัพย์สินในพอร์ตรวมกันกว่า 11,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 14 โครงการจากกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 9 ราย ถือเป็นรีทอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายของประเภททรัพย์สินสูงที่สุด โดยมีทั้งอาคารคลังสินค้า โรงงาน คลังห้องเย็น และถังเก็บสารเคมีเหลว โดยกองทรัสต์ AIMIRT เป็นรีทอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศที่มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงโดดเด่นที่สุดในกลุ่มรีทอุตสาหกรรมด้วยกัน อีกทั้งผลการดำเนินงานที่ผ่านมายังโดดเด่น ครองแชมป์รีทอุตสาหกรรมที่มีการอัตราการจ่ายปันผลรวมในปี 2566 สูงสุดที่อัตรา 0.884 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงถึง 8.5% (คำนวณจากราคาปิดวันที่ 28 ธ.ค. 2566) การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ครั้งนี้ จะทำให้กองทรัสต์ AIMIRT มีขนาดทรัพย์สินเพิ่มขึ้นแตะ 13,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นกว่า 20% เสริมความแข็งแกร่งและศักยภาพของพอร์ตให้สูงขึ้น