5 โบรกฯส่องกำไร PTTEP เดี้ยงก่อนฟื้น Q2 ต่างชาติแห่ซื้อหุ้น

HoonSmart.com>>5 โบรกเกอร์เชียร์”ซื้อ”หุ้น PTTEP คาดกำไรไตรมาส 1/67 อยู่ในช่วง 1.5-1.9 หมื่นล้านบาท ลดลง YoY และ QoQ จากราคาขายเฉลี่ยลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ แบกขาดทุนอนุพันธ์ราว 1 พันล้านบาท  คาดไตรมาส 2 ฟื้นตัวขึ้น ทั้งราคาและปริมาณขาย เพิ่มกำลังผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณ ราคาหุ้นขึ้นช้ากว่าราคาน้ำมัน  นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อตั้งแต่กลางก.พ. มองยังมี Upside จากโครงการปิโตรเลียมบริเวณพื้นที่ทับซ้อนไทย–กัมพูชา(OCA) ให้เป้า 172-191 บาท

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ”ซื้อเก็งกำไร”หุ้น PTTEP มองหุ้นน่าสนใจเข้าเก็งกำไรจากเป็นหุ้นต้นน้ำได้ประโยชน์ทางตรงจากราคาน้ำมัน และความเสี่ยงนโยบายแทรกแซงพลังงานจำกัด รวมถึง Upside จากความคืบหน้าโครงการปิโตรเลียมบริเวณพื้นที่ทับซ้อนไทย–กัมพูชา (OCA) จะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น หากได้เป็นผู้ร่วมลงทุน–ผู้ดำเนินการมีโอกาสเป็น Upside เพิ่มปริมาณปิโตรเลียมอย่างมีนัยสำคัญ (ประกาศผลประกอบการวันที่ 25 เม.ย.) ประเมินราคาเหมาะสมใหม่ 172 บาท

ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/2567 ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท (+1% QoQ, -4% YoY) แม้ว่าผลการดำเนินงานหลักจะลดลง QoQ ตามราคาขาย-ปริมาณขายที่ชะลอเล็กน้อย และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนผลิต YoY อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิถือว่าประคองตัวได้ดีจากขาดทุนพิเศษจานวนมากไม่เกิดขึ้น พร้อมปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2567–2568 เป็น 75-82 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ประมาณการกำไรขยับขึ้น 8-16%

แนวโน้มราคาน้ำมันครึ่งแรกปี 2567 แข็งแกร่งกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า จากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์รุนแรง ทั้งการโจมตีของโรงกลั่นรัสเซียอย่างต่อเนื่อง, ความขัดแย้งในอิสราเอลที่อาจรุนแรงขึ้นหลังเทศกาลรอมฎอน, การตอบโต้ของอิหร่านต่อการถูกโจมตีสถานทูต

บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะนำ”ซื้อ”หุ้น PTTEP ราคาเป้าหมาย 189 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 1.84 หมื่นล้านบาท (+1%QoQ,-4%YoY) กลับมาเพิ่มขึ้น QoQ ตามค่าใช้จ่ายพิเศษลดลง กำไรปกติลดลงเล็กน้อยตามราคาน้ำมันดูไบและราคาก๊าซที่ลดลง

ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นแข็งแกร่งจาก 77 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มเป็น 89 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ค่าเฉลี่ย 81.2 เหรียญสหรัฐ) และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจะหนุนให้กำไรไตรมาส 2/2567 เพิ่มขึ้น แนวโน้มราคาน้ำมันดิบไตรมาส 2  เพิ่มขึ้นอย่างน้อย +9%QoQ ด้วยแรงหนุนจากอุปทานตึงตัว ทั้งจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางเหตุการณ์ที่ยูเครนโจมตีโรงกลั่นในรัสเซียรัสเซียสั่งควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมัน และกลุ่ม OPEC+ คงนโยบายปรับลดการผลิตต่อเนื่อง  แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ปตท.สผ.จะได้ประโยชน์มากจากปริมาณผลิตของเอราวัณที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันเต็มไตรมาส ซึ่งจะหนุนปริมาณขาย +8%QoQ เป็นบวกโดยตรงต่อกำไรไตรมาส 2

หุ้น PTTEP เป็นหนึ่งในหุ้นพลังงานที่ถูกขายมากที่สุด โดย % การถือครองลดลงเกือบ -3% จากเคยถือราว 16% ลงมาเหลือราว 13% แต่ล่าสุด นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อหุ้น PTTEP แล้วตั้งแต่กลางเดือน ก.พ.2567 เป็นต้นมา โดย % ถือครองล่าสุดเพิ่มเป็น 13.3% ขณะเดียวกัน NVDR ก็กลับมาซื้อสุทธิรวม +1.7 พันล้านบาท ในสามสัปดาห์หลังสุด หลังจากขายต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ย. 2566 โดยราคาหุ้นยังปรับขึ้นช้า(เมื่อเทียบกับอดีต)จะช่วยสนับสนุนราคาหุ้น

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบที่แข็งแกร่ง แรงซื้อจากต่างชาติ รวมถึงราคาหุ้นปัจจุบันยังปรับขึ้นช้ากว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น จะช่วยสนับสนุนราคาหุ้นต่อเนื่อง นอกจากนั้น หากราคาน้ำมันดิบยังแข็งแกร่งเช่นนี้ก็จะช่วยสนับสนุนกำไรในช่วงที่เหลือของปีนี้ และจะทำให้ตลาดปรับประมาณการกำไรปีนี้เพิ่มขึ้น

บล.กรุงศรี ปรับเพิ่มคําแนะนําหุ้น PTTEP จาก”ถือ”เป็น”ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 174 บาท จากเดิม 165 บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับเพิ่มประมาณการกําไรปี 2567 ขึ้นอีก 14 % เป็น 7.37 หมื่นล้านบาท  และปี 2568 ขึ้นอีก 20% เป็น 6.64 หมื่นล้านบาท เพื่อสะท้อนถึงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 75/70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็น 81/75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบ YTD อยู่ที่ 82 เหรียญสหรัฐ จากการที่ OPEC+ ยืนยันจะลดการผลิตโดยสมัครใจ 2.2 MBPD ไปจนถึงเดือนมิถุนายน 67 นอกจากนี้ ยอดผลิตน้ำมันของ OPEC ในเดือนมีนาคม 67 ยังลดลง 4.6% จากเมื่อเดือนธันวาคม 66 เหลือ 26.9 MBPD จึงคาดว่าอุปทานจะตึงตัวในครึ่งหลังปี 67 จากการที่ OPEC+ ยังเดินหน้าลดการผลิต และ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงมากขึ้น

กําไรสุทธิในไตรมาส 1/67 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.76 หมื่นล้านบาท (-9% YoY, -4% QoQ)คิดเป็น 24% ของประมาณการกําไรเต็มปี กําไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะราคาขายเฉลี่ยลดลง (-7% YoY) และต้นทุนต่อหน่วยเพิ่มขึ้น (+11% YoY) ส่วนกําไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะราคาขายเฉลี่ย (ASP) ลดลงเหลือ 46.7 เหรียญสหรัฐ/BOE (-3% QoQ) เพราะราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงมาอยู่ที่ 81.2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (-3% QoQ)ในขณะที่ราคาขายก๊าซทรงตัว QoQ อยู่ที่ 5.8 เหรียญสหรัฐ/BOE นอกจากนี้ ยังคาดว่า ในไตรมาสนี้บริษัทจะมีผลขาดทุนพิเศษ (ผลขาดทุนจากอนุพันธ์) 1 พันล้านบาท โดยคาดว่ากําไรจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 1.85 หมื่นล้านบาท (-7% yoy,-17%qoq)

ในขณะที่คาดว่ากําไรในไตรมาส 2/67 จะเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้นจากโครงการ G1/61 (เอราวัณ) ที่เร่งการผลิตจนเต็มกําลังที่ 800 mmscfd ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.67 และจากโครงการ HBR ในแอลจีเรีย รวมถึงคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะสูงขึ้น

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ”ซื้อ”หุ้น PTTEP ราคาพื้นฐาน 175 บาท คาดไตรมาส 1/67 จะมีกำไร 18,164 ล้านบาท -5.8% YoY, -0.7% QoQ แม้ราคาขายจะอ่อนตัวลงแต่ไม่มีรายการค่าใช้จ่ายพิเศษกดดันเมื่อเทียบ QoQ โดยปริมาณขายใกล้เคียงไตรมาส 4/66 เนื่องจากปริมาณขายในแหล่งแอลจีเรียและมาเลเซียลดลงแต่ได้รับการชดเชยจากการเพิ่มกำลังการผลิตของแหล่งเอราวัณ ด้านราคาขายเฉลี่ยลดลง คาดว่าราคาน้ำมันช่วงต้นไตรมาส 1/67 ยังอยู่ในระดับต่ำกดดันค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันในภาพรวม ด้านต้นทุนคาดใกล้เคียงกับไตรมาส 4/66

ทั้งนี้คาดแนวโน้มไตรมาส 2/67 ยังมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซของแหล่งเอราวัณ และแนวโน้มราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูงจะเป็นตัวช่วยหนุนกำไรบริษัทตั้งแต่ไตรมาส 2/67 เป็นต้นไป

บล.พาย แนะนำ”ซื้อ”หุ้น PTTEP ราคาเป้าหมาย 191 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท  -21% YoY, -17% QoQ  ปรับตัวลงจากราคาขายเฉลี่ยที่ 46.4 เหรียญสหรัฐ/BOE (7.1% YoY, -4.1% QoQ) แม้ว่าปริมาณการขายจะทรงตัวที่ 473 KBOE (+2.6% YoY, 0% QoQ) เนื่องจากการผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณปรับตัวสูงขึ้น (ราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่าแบบสัมปทานเดิม) โดยแนวโน้มในไตรมาส 2/67 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมัน และปริมาณขายที่สูงขึ้น

ผลประกอบการทั้งปี 2567 คาด 7.05 หมื่นล้านบาท -8% จากปีก่อน แต่ยังคงมากกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 5.15 หมื่นล้านบาท โดยคาด ASP ที่ 46.5 เหรียญสหรัฐ/BOE (-3% YoY) เนื่องจากปริมาณขาย G1/61 และ G2/61 โดยปริมาณขายรวมทั้งหมด 505 KBOED (+9% YoY) จากแหล่ง G1/61 (เอราวัณ) เพิ่มขึ้นจาก 400 MMscfd เป็น 800 MMscfd ฝั่งต้นทุนต่อหน่วยที่ 28.5 (+3% YoY) เนื่องจากราคาค่าเช่าเครื่องขุดเจาะที่ปรับตัวสูงขึ้น