“คิงส์ฟอร์ด” แนะเก็งกำไร PTTEP-TOP-SPRC-BSRC ตามราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองแนวโน้มหุ้นวันนี้แนวรับ 1,360 – 1,370 จุด แนวต้าน 1,385 จุด ถูกกดดันจากบอนด์ยีลด์สหรัฐปรับขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ 4.405% หลังตัวเลขเปิดรับสมัครงานสหรัฐสูงกว่าคาด เฟดอาจไม่รีบลดดอกเบี้ยมิ.ย. ส่งผลลบต่อ Fund Flow ในตลาดเกิดใหม่ คืนนี้ติดตามถ้อยแถลงประธานเฟด แนะนำเก็งกำไร PTTEP,TOP,SPRC,BSRC ตามราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น หลังยูเครนส่งโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในรัสเซีย และอิสราเอลโจมตีกงศุลอิหร่านในซีเรีย หุ้นวันนี้แนะ NSL,AWC

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับ SET ที่ 1,360 – 1,370 จุด แนวต้าน 1,385 จุด คาดดัชนีอาจถูกกดดันจาก US Bond Yield 10 ปรับขึ้น กอปรเฟดอาจไม่รีบลดดอกเบี้ย ส่งผลลบต่อ Fund Flow ในตลาดเกิดใหม่ แนะนำเก็งกำไร PTTEP,TOP,SPRC,BSRC ตามราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น

น้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ อยู่ที่ 85.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน Brent ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ อยู่ที่ 88.92 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังยูเครนส่งโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของ Gazprom ในรัสเซีย ขณะที่อิสราเอลโจมตีกงศุลอิหร่านในซีเรีย ส่งผลให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้น

BitCoin เช้านี้ -5.95% อยู่ที่ 65,220 ดอลลาร์สหรัฐ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA -1.0%, S&P500 -0.72%, Nasdaq -0.95% ปรับลดลง หลังตัวเลขเปิดรับสมัครงาน ก.พ. สูงกว่าคาด บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐยังร้อนแรง ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี สูงสุดระหว่างวันที่ 4.405% โดย CME Fed Watch ได้ปรับลดโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. ลงอยู่ที่ 56.3% และเดิมคาดที่ 63.8% โดยค่ำวันนี้ติดตามถ้อยแถลงของ ประธานเฟด และวันศุกร์รอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ มี.ค. คาดชะลอตัวอยู่ที่ 205,000 และ ก.พ. 275,000 ราย, อัตราว่างงานคาดทรงตัวที่ 3.9% เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ NSL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 28.00 บาท) แนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q67 เติบโตขึ้นต่อเนื่องหนุนจากรายได้การขายสินค้าผ่านช่องทาง 7-11 และการออกสินค้าใหม่ เป็นไปตามการฟื้นตัวของการบริโภคและการท่องเที่ยว โดยอัตรากำไรขั้นต้นคาดดีขึ้นจาก U-rate ที่อยู่ในระดับสูงขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบลดลง ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจาก Bake a wish คาดว่าจะทยอยลดลงเช่นกัน

ส่วนแนวโน้มปี 67 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต +19% ขยายตัวผ่านช่องทาง 7-11 โดยการออกสินค้าใหม่ และเพิ่มสินค้า Brand ของตัวเอง และการส่งออกไปจีน ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 395 ล้านบาท +19%YoY และ 433 ล้านบาท +10%YoY

หุ้น AWC (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 5.15 บาท) กำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 5.0 พันล้านบาท ,+31%YoY(มี Extra Gain ราว +3.9 พันล้านบาท) หนุนด้วย EBITDA +27%YoY โดยเฉพาะในหน่วยธุรกิจ Hotel(+119%YoY) และ Retail(+22%YoY) ตามการฟื้นตัวหลัง Covid-19 ส่วนผลการดำเนินงานปกติ 1Q67 นี้ คาดยังได้แรงหนุนต่อเนื่องจากหน่วยธุรกิจ Hotel และ Retail หลังจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทย 1ม.ค.-24มี.ค.67 อยู่ที่ 8.73 ล้านคน, +44%YoY

ทั้งนี้ ทางบริษัทวางเป้าในส่วนของธุรกิจ Hotel ปี 67จะมี occ. Rate ที่75%(เท่า PreCovid-19 ปี 62/ ปี66 occ. Rate อยูที่ 64.6%) และ ADR ที่ 5,858 บาท,+3.5%YoY(+25%เทียบ PreCovid-19 ปี62)